นายสัญชัย เนื่องสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บิวเดอสมาร์ท (BSM) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในปี 62 จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดทำสถิติสูงสุดอย่างต่อเนื่องจากปีนี้ โดยคาดว่าจะมีรายได้ 1 พันล้านบาท จากปีนี้ที่ตั้งเป้าไว้ที่ 800 ล้านบาท หลังจากบริษัทเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 4/61 และจะรับรู้เต็มที่ในปีหน้าเป็นต้นไป ซึ่งสัดส่วนรายได้จะมาจากการโอนอสังหาริมทรัพย์ 40% และจากการขายอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน-อาคาร 60%
บริษัทยังคาดว่าอัตรากำไรสุทธิก็จะเพิ่มขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 9% ในปีนี้ จากปีก่อนที่ 5.9% จากการเดินหน้ารุกธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มตัวผ่านบริษัท ทีค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย โดยเตรียมโอนโครงการแรก คือ The Teak Sukhumvit 39 ในช่วงไตรมาส 4/61 มูลค่าราว 130 ล้านบาท และในส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ทั้งหมดในปี 62 ปัจจุบันบริษัทมียอดขายครบทั้ง 100% แล้ว มูลค่าโครงการรวม 350 ล้านบาท
ส่วนธุรกิจการผลิต และจำหน่ายอลูมิเนียม อัลลอย และธุรกิจผลิต และจำหน่ายประตู หน้าต่าง ก็ยังคงเติบโตได้ดี ภายใต้แผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ วางตลาดอย่างต่อเนื่อง
"ผลงานในช่วง 3 เดือนแรกออกมาเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะในส่วนสินค้าวัสดุก่อสร้าง ส่วนในปีนี้เรายังคงแผนเดิมในการเดินหน้าขยายธุรกิจเป็นผู้พัฒนาอสังหาฯ อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นการเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ และกำไรให้เพิ่มสูงขึ้น ส่วนธุรกิจหลักก็ยังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องจากปีก่อนจากความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้น" นายสัญชัย กล่าว
นายสัญชัย กล่าวว่า ทีคฯ เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มอีก 2-3 โครงการในปีนี้ มูลค่าโครงการรวม 1,200 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ไตรมาส 2/61 เป็นต้นไป และมีแผนจะเปิดตัวเฉลี่ยไตรมาสละ 1 โครงการอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ 8 ชั้น มูลค่าโครงการละไม่เกิน 400 ล้านบาท ในทำเลที่มีศักยภาพสูงใกล้แนวรถไฟฟ้า เช่น สาทร รัชดาภิเษก และ อารีย์ เป็นต้น
สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ที่ต้องการขยายครอบครัว และกลุ่มผู้ที่ทำงานในพื้นที่ใกล้เคียงโครงการ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพและมีกำลังซื้อสูง
นายสัญชัย กล่าวต่อว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ยังมีการแข่งขันที่สูงจากจำนวนโครงการที่เปิดเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะทำเลใกล้รถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการแล้ว และใกล้ที่จะเปิดให้บริการภายใน 1-2 ปีนี้ โดยกำลังซื้อของคนในประเทศยังอยู่ในระดับที่ทรงตัวใกล้เคียงกับปีก่อน แต่ตลาดของชาวต่างชาติกลับมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะตลาดชาวจีน และฮ่องกง ที่มีความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะคอนโดมีเนียมในกรุงเทพมหานครเนื่องจากมีราคาที่ต่ำกว่าราคาที่อยู่อาศัยในประเทศของตนเอง
นายวรุตม์ ภาณุพัฒนพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้จำนวนโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดตัวใหม่กระจุกตัวอยู่ในทำเลรถไฟฟ้าที่เปิดใหม่หรือกำลังจะเปิดบริการ ขณะที่ทำเลกลางกรุงเทพชั้นในนั้นที่ดินหายากมากและราคาพุ่งขึ้นสูง ทำให้มีการเปิดตัวโครงการใหม่ค่อนข้างน้อย
ขณะที่โครงการของทีคฯ ที่ซอยสุขุมวิท 39 ยังมีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติน้อยมาก เพราะส่วนใหญ่เป็นคนไทยส่วนใหญ่ ซึ่งบริษัทเริ่มให้ความสนใจตลาดต่างชาติ เนื่องจากชาวจีนและฮ่องกงมีกำลังซื้อสูงและสนใจอสังหาในไทยเนื่องจากยังมีราคาไม่แพงมากนัก โดยมองว่าตลาดต่างชาติจะช่วยให้สามารถปิดการขายโครงการได้เร็วขึ้น