นายพิพิธ เชาว์วิศิษฐ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายขายและการตลาด บมจ.ระยองไวร์ อินดัสตรีส์ (RWI) เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/61 พลิกเป็นขาดทุน 8.26 ล้านบาท จากไตรมาส 1/60 มีกำไรสุทธิ 35.98 ล้านบาท แม้ว่าบริษัทจะมีรายได้รวม 274.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.60 ล้านบาทเมี่อเทียบกับงวดเดียวกันกับปีก่อน เป็นผลมาจากราคาขายขยับขึ้นได้เล็กน้อยตามต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ปริมาณการขายกลับลดลง ทั้งนี้ ต้นทุนขายเพิ่มขึ้นกว่า 34%ในขณะที่รายรับเพิ่มขึ้นเพียง 9.4%
ต้นทุนขายที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากปัจจัยหลายด้าน นอกจากราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นแล้ว การที่บริษัทดำเนินธุรกิจมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 20 ปี ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบำรุงรักษาเครื่องจักรเก่าเป็นจำนวนมาก คาดว่าจะใช้เวลา 3-4 เดือนในการปรับปรุงให้แล้วเสร็จ ซึ่งค่าซ่อมแซมเครื่องจักรถือเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนขาย
อีกทั้งมีสินค้าและวัตถุดิบบางส่วนไม่ได้คุณภาพตามความต้องการของลูกค้า ผู้บริหารจึงเห็นสมควรทำการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือดังกล่าวลง ประมาณ 16 ล้านบาท เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงมูลค่าที่แท้จริง
นอกจากนี้ การก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐมีความล่าช้าออกไป และตัวเลขการลงทุนภาคเอกชนก็ชะลอตัวลงอาทิ อาคารสูงและโครงการที่พักอาศัยใหม่ ขณะที่ปริมาณลวดที่ผลิตออกสู่ตลาดมีมากขึ้น ทั้งผู้ผลิตลวดเหล็กรายใหม่และผู้ผลิตรายเดิมที่เพิ่มเครื่องจักรในการผลิต ในขณะที่ความต้องการยังมีจำกัด ทำให้เกิดภาวะการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง
อีกทั้งบริษัทได้เดินหน้าขยายช่องทางการตลาดสู่ต่างประเทศ ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายด้านต่างประเทศค่อนข้างสูง แต่เงินบาทกลับแข็งค่าอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบด้านการส่งออกโดยตรง บริษัทจึงหันกลับมาทบทวนวางแผนกลยุทธ์การส่งออกให้รัดกุมยิ่งขึ้น
ในด้านการเติบโตของตลาดและแนวโน้มการขาย ต้องดูความต้องการของตลาดลวดเหล็กทั้งภาครัฐและเอกชนว่างานโครงการใหญ่ๆของรัฐจะเริ่มเมื่อไหร่ และภาคเอกชนจะเริ่มลงทุนเพิ่มเติมเมื่อไหร่ ซึ่งในช่วงที่เข้าฤดูฝน ยอดขายก็อาจลดลงได้เนื่องจากต้องชะลอการก่อสร้าง โดยปัญหาต่างๆ เหล่านี้ ผู้บริหารกำลังดำเนินการแก้ไขและเตรียมรับกับสถานการณ์อย่างใกล้ชิด