CPN ตั้งเป้ารายได้ 5 ปี (61-65) โตเฉลี่ย 13% ต่อปี,คาดปีนี้โตราว 20% จากรับรู้ยอดโอนคอนโดฯ 2.8 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 18, 2018 13:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวปัทมิกา พงศ์สูรย์มาส ผู้อำนวยการบริหารการเงิน บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ 5 ปี (ปี 61-65) เติบโตเฉลี่ย 13% ต่อปี จากการเปิดศูนย์การค้าใหม่ปีละ 2-3 แห่ง และปรับปรุงศูนย์การค้าเดิม ประกอบกับบริหารจัดการพื้นที่ที่มีอยู่เดิมให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้น 2-3% อีกทั้งบริษัทจะปรับค่าเช่าพื้นที่ในศูนย์การค้าขึ้นอีก 3-5% ต่อปีด้วย

ส่วนปี 61 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ที่ระดับ 3.46 หมื่นล้านบาท โดยปัจจัยหนุนสำคัญมาจากการรับรู้รายได้จากยอดโอนโครงการคอนโดมิเนียมทั้งหมดราว 2.8 พันล้านบาท ภายใต้แบรนด์ ‘Escent’ ได้แก่ Escent เชียงใหม่, Escent ขอนแก่น และ Escent ระยอง

ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนเปิดตัวศูนย์การค้าเพิ่มอีก 2 แห่ง คือ เซ็นทรัลพลาซา ภูเก็ต มูลค่าราว 6-6.5 พันล้านบาท จะเปิดให้บริการในไตรมาสที่ 3/61 และ เซ็นทรัล ไอ-ซิตี้ ในเมืองชาห์อลัม รัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย มูลค่าราว 8.3 พันล้านบาท ซึ่งจะเปิดให้บริการในไตรมาส ที่ 4/61

อีกทั้งในปีนี้บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยเพิ่มเติมอีก 2 โครงการ ในไตรมาสที่ 3/61 ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียมพหลโยธิน 34 และโครงการบ้านเดี่ยวบรมราชชนนี มูลค่าโครงการรวมราว 3.4 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างรอการสรุปราคาขาย

นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนเปิดโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ รูปแบบ Luxury Outlet บนพื้นที่กว่า 4 หมื่นตารางเมตร ตั้งอยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีร้านค้าจำนวนกว่า 235 ร้านค้า และมีแผนเปิดเป็นโรงแรมเพิ่มเติมอีกกว่า 200 ห้อง โดยคาดว่ามีสัดส่วนกลุ่มเป้าหมายเป็นลูกค้าชาวไทย 65% และต่างชาติอีก 35% โดยมีแผนเปิดให้บริการภายในไตรมาสที่ 2/62 ด้วย

บริษัทวางงบลงทุนปี 61 ราว 1.7 หมื่นล้านบาท ในการเปิดโครงการใหม่ราว 7 พันล้านบาท ปรับปรุงโครงการเดิมราว 5 พันล้านบาท พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยราว 3.5 พันล้านบาท และจัดหาที่ดินรองรับโครงการใหม่ 2 พันล้านบาท โดยเบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นหลัก อีกทั้งบริษัทยังมีความสามารถในการกู้สถาบันการเงินได้อีกมาก จากปัจจุบันมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ระดับ 0.03 เท่า

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัย ได้แก่ โครงการ Escent นครราชศรีมา, Escent Ville เชียงราย และ Escent Ville เชียงใหม่ มูลค่าโครงการรวม 2.2 พันล้านบาท โดยคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ และพร้อมโอนได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 62

นางสาวปัทมิกา กล่าวอีกว่า การที่บริษัทลงทุนเข้าซื้อหุ้นในบมจ.ดุสิตธานี (DTC) เนื่องจากมองเห็นโอกาสในการลงทุนระยะยาว (Long-term Investment) ซึ่งบริษัทก็มีโครงการที่พัฒนาร่วมกันอยู่แล้ว และเบื้องต้นยังไม่มีแผนเพิ่มสัดส่วนการเข้าถือหุ้น จากปัจจุบันที่ 22.93%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ