ทพ.พรศักดิ์ ตันตาปกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เดนทัล คอร์ปอเรชั่น (D) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 61 คาดว่าจะ ทำสถิติสูงสุดใหม่ทั้งในส่วนของรายได้และกำไร โดยได้รับปัจจัยหนุนหลักมาจากฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น หลังจากบริษัทได้เข้าซื้อกิจการ 3 คลินิกใหม่ ซึ่งเริ่มรับรู้รายได้ไปแล้วตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ผนวกกับบริษัทเข้าซื้อกิจการธุรกิจเกี่ยวกับวัสดุ และอุปกรณ์ด้านทันตกรรม มูลค่าลงทุนกว่า 250 ล้านบาท เพื่อเข้ามาต่อยอดธุรกิจเดิม ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน หนุนอัตรากำไรขั้นต้นกลุ่มธุรกิจปรับตัวดีขึ้น
"ทั้ง 2 ดีลที่เกิดขึ้นในปีนี้ ถือเป็นตัวแปรที่สำคัญที่จะผลักดันผลการดำเนินงานในปีนี้เติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องช่วยเพิ่มฐานลูกค้า และช่วยลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจให้กับกลุ่มบริษัท ซึ่งจะเริ่มเห็นชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 2-3 ของปีนี้เป็นต้นไป"ทพ.พรศักดิ์กล่าว
นอกเหนือจากปัจจัยหนุนทั้ง 2 ประเด็นที่จะทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทเติบโตอย่างโดดเด่นตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปีนี้ ยังมีตัวแปรที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ ขณะนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มเข้ามาใช้บริการมากขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากค่าเงินบาทที่เริ่มอ่อนค่า ทำให้กำลังซื้อของชาวต่างชาติมีมากขึ้น และการทำการตลาดเชิงรุก
ปัจจุบัน บริษัทมีศูนย์ทันตกรรมและคลินิกทันตกรรมทั้งหมด 16 สาขา ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ 14 สาขา และภูเก็ต 2 สาขา ดำเนินการภายใต้ "BIDC" 1 สาขา,"Dental Signature" 4 สาขา "Smile Signature" 8 สาขา และ "Dental Planet" 3 สาขา
ในส่วนของการลงทุนก่อสร้างโรงพยาบาลทันตกรรมเอกชนเฉพาะทาง ย่านเพลินจิต มูลค่ากว่า 450 ล้านบาท ขณะนี้มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จ และพร้อมเปิดให้บริการในไตรมาส 2/62 ซึ่งโรงพยาบาลดังกล่าวเน้นกลุ่มลูกค้าตลาดบน กลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ ชาวไทยที่มีรายได้ระดับปานกลางถึงบน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อเป็นอย่างมาก และทำให้บริษัทก้าวขึ้นสู่ความเป็นเบอร์หนึ่งในธุรกิจทันตกรรมของเมืองไทย และคาดว่ารายได้และกำไรในช่วง 5 ปีข้างหน้า เติบโตอย่างก้าวกระโดดตามแผนงานที่วางไว้
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 1/61 มีรายได้รวม 125.57 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 11.03 ล้านบาท