ตลท.เผย Q1/61 บจ.ไทยเติบโตดี กำไรสุทธิ 2.86 แสนลบ. เพิ่มขึ้น 0.30%, ยอดขายโต 5.61% จากงวดปีก่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 22, 2018 11:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) งวดไตรมาส 1 ปี 2561 มีกำไรสุทธิจำนวน 449 บริษัท คิดเป็น 82.45% ของบริษัทที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด โดยมีกำไรสุทธิรวม 2.86 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 1/2560 เป็นไตรมาสที่ บจ. มีผลประกอบการสูงสุดในปีที่ผ่านมา คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 29% ของกำไรทั้งปี 2560) สำหรับไตรมาส 1/2561 ราคาน้ำมันยังเพิ่มสูงขึ้น อัตราแลกเปลี่ยนที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 23.72% ลดลงเล็กน้อยจาก 24.33% ในช่วงเดียวกันในปีก่อน

แต่เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2560 บจ.มีผลกำไรเพิ่มขึ้น 15.55% เนื่องจาก บจ. ในหมวดพลังงานและสาธารณูปโภคมีกำไรเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะธุรกิจโรงไฟฟ้า และหมวดธนาคารมีผลการดำเนินงานดีขึ้น

สำหรับไตรมาสแรกปี 2561 บจ. มียอดขายรวม 2.83 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.61% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บจ. ส่วนใหญ่มียอดขายปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในหมวดธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับราคาน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ด้านฐานะการเงินของกิจการ ณ สิ้นไตรมาส 1/2561 พบว่าโครงสร้างเงินทุนของ บจ. ยังคงแข็งแรง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) ลดลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ 1.15 เท่า เทียบกับ สิ้นปี 2560 ที่ 1.17 เท่า

สำหรับผลการดำเนินงานของ บจ. ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในภาพรวมปรับดีขึ้น โดยในไตรมาสแรกปี 2561 บจ. mai มีกำไรสุทธิ 1.81 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.45% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 69.56% จากไตรมาส 4/2560

"ในไตรมาสแรกปี 2561 บจ. ไทยมียอดขายสูงขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและราคาน้ำมันดิบซึ่งปรับสูงขึ้นราว 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ดี การผันผวนของราคาน้ำมันและอัตราแลกเปลี่ยนได้ส่งผลกระทบทางลบต่อ บจ. ที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ซึ่งกระจายตัวอยู่ในหมวดพลังงานและสาธารณูปโภค หมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ และหมวดวัสดุก่อสร้าง ขณะที่การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีมีส่วนทำให้ บจ. ได้รับผลกระทบด้านความสามารถในการทำกำไร และต้องปรับตัวในการบริหารกิจการมากขึ้นในระยะต่อไป ทั้งนี้ หมวดธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภคและการท่องเที่ยวยังคงมียอดขายและกำไรสุทธิเติบโตได้ดี ทั้งหมวดธุรกิจพาณิชย์ ขนส่งและ โลจิสติกส์ การแพทย์ ท่องเที่ยวและสันทนาการ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และเงินทุนและหลักทรัพย์" นางเกศรากล่าว

ทั้งนี้ บจ. ใน SET นำส่งงบการเงินไตรมาส 1/2561 จำนวน 544 บริษัท (ณ 16 พ.ค. 2561) หรือคิดเป็น 93.79% จากทั้งหมด 580 บริษัท (รวมกองทุนอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ไม่รวมบริษัทในกลุ่มที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน หรือ NC และบริษัทที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด หรือ NPG)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ