โบรกฯเชียร์"ซื้อ" IRPC มองปีนี้กำไรปกติทำนิวไฮรับผลบวกกำลังผลิตเพิ่มหนุน,รุกทำนิคมฯ EEC ดันมูลค่าเพิ่มอนาคต

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 22, 2018 14:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) หลังคาดกำไรปกติปีนี้มีโอกาสทำระดับสูงสุดใหม่ จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีจากการขยายกำลังการผลิตโพลีโพรพิลีน (PP) 3 แสนตัน/ปีที่แล้วเสร็จในปลายปีที่ผ่านมา และโครงการเพิ่มมูลค่าเพื่อผลิตภัณฑ์สะอาด (UHV) ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นทำให้โรงกลั่นสามารถกลั่นน้ำมันได้เพิ่มขึ้น โดยประเมินการกลั่นน้ำมันในปีนี้ที่ราว 2.1 แสนบาร์เรล/วันทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นจะช่วยรองรับสถานการณ์มาร์จิ้นของธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นที่ผันผวนได้

ส่วนการตั้งบริษัทร่วมทุนกับ WHA ในสัดส่วน 40:60 เพื่อพัฒนานิคมอุตสาหกรรรมในพื้นที่พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นพื้นที่ดินของ IRPC แม้เบื้องต้นจะรับรู้กำไรจากการขายที่ดินดังกล่าวให้กับบริษัทร่วมทุนไม่มากนักในช่วงไตรมาส 3/61 และการลงทุนดังกล่าวก็ไม่ได้หนุนผลการดำเนินงานของ IRPC อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับธุรกิจหลัก แต่ก็จะเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้ในอนาคต

ขณะที่ราคาหุ้น IRPC ที่ปรับตัวลงแรงในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งแม้จะมาจากความกังวลปัญหาการเมือง แต่ก็กลับทำให้ราคา IRPC มีความน่าสนใจมากขึ้นจากพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ที่สูงขึ้นมาอยู่ที่กว่า 4% ในปัจจุบัน

พักเที่ยงราคาหุ้น IRPC อยู่ที่ 6.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท หรือ 0.73% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ลดลง 0.04%

          โบรกเกอร์                   คำแนะนำ              ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          เอเซีย พลัส                    ซื้อ                      8.40
          หยวนต้าฯ                      ซื้อ                      8.40
          ฟินันเซีย ไซรัส                  ซื้อ                      9.00
          เอเอสแอล                     ซื้อ                      8.70
          เคทีบีฯ                        ซื้อ                      8.50
          ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี                ซื้อ                      9.60
          แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์               ซื้อ                     10.80
          เมย์แบงก์ กืมเอ็งฯ               ซื้อ                      8.40

นางสาวนลินรัตน์ กิตติกำพลรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของ IRPC ปีนี้เติบโตจากปีก่อน โดยในส่วนของกำไรปกติจะได้รับผลดีจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น หลังการขยายกำลังการผลิต PP จากโรงงานเดิม (PPE) อีก 1.6 แสนตัน/ปี และการผลิต PP Compound (PPC) 1.4 แสนตัน/ปีแล้วเสร็จเมื่อปลายปีก่อน

ประกอบกับไม่มีหยุดโรงงานปิโตรเคมีและโรงกลั่น เหมือนในปีที่ผ่านมา ทำให้การใช้กำลังการกลั่นของโรงกลั่นน้ำมันในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 2.1 แสนบาร์เรล/วัน จากระดับ 1.8 แสนบาร์เรล/วันในปีที่แล้ว

สำหรับการขยายกำลังการผลิต PP ที่เพิ่มขึ้นช่วยเพิ่มกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่ม (GIM) ได้อีกราว 80 เซนต์/บาร์เรล รวมถึงการดำเนินโครงการ EVEREST เพื่อเพิ่มขีดความสามารถองค์กรในทุกด้านนั้น ก็ช่วยเพิ่ม GIM ได้ราว 20 เซนต์/บาร์เรล

"กำไรปกติปีนี้มีการเปลี่ยนแปลง 2 โครงการ จากการขยายกำลังการผลิต PP ทำให้ volume growth เพิ่มขึ้น และปีนี้ก็ไม่มี shut down ทำให้การใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญไม่ว่า GRM (ค่าการกลั่น) จะเป็นอย่างไร แต่ IRPC มี volume growth แน่นอน"นางสาวนลินรัตน์ กล่าว

นางสาวนลินรัตน์ กล่าวว่า ระยะสั้นในไตรมาส 2/61 คาดว่า GRM จะอ่อนตัวลงจากไตรมาสแรก จากต้นทุนน้ำมันดิบที่สูงขึ้น แต่ IRPC ซึ่งมีน้ำหนักของธุรกิจปิโตรเคมีมากกว่าโรงกลั่นน้ำมันนั้น จะยังได้รับประโยชน์จากผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์ที่มีแนวโน้มค่อนข้างดี

ส่วนการจับมือกับกลุ่ม บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) เพื่อทำนิคมอุตสาหกรรมในจ.ระยองนั้น แม้ว่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มของราคาหุ้นได้ไม่มากนักเมื่อเทียบกับธุรกิจหลักของ IRPC ในปัจจุบัน แต่ก็เชื่อว่าจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้ได้ในอนาคต โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะสร้างอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ราว 16% และในระยะสั้น IRPC จะได้รับเงินราว 620 ล้านบาท จากการขายที่ดินดังกล่าว 2,152 ไร่ให้กับบริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งใหม่ในช่วงไตรมาส 3/61 ซึ่งในส่วนนี้คาดว่าจะบันทึกกลับมาเป็นกำไรพิเศษไม่มากนักราว 50 ล้านบาท

ขณะที่ประเด็นความกังวลต่อการปรับสูตรราคาหน้าโรงกลั่นของภาครัฐ ,ราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น กระทบต่อต้นทุนการผลิต และปัญหาการเมืองหลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีเห็นชอบให้กระทรวงการคลังเข้าเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของ บมจ.อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย (TPI) โดยปัจจัยเหล่านี้ทำให้ราคาหุ้น IRPC ปรับลดลงมามากก่อนหน้านี้ จนทำให้มี Upside เพิ่มขึ้นจากราคาเป้าหมาย และมี dividend yield สูงขึ้นมาที่ราว 4.7% ก็นับว่าเป็นโอกาสดีในการลงทุน

นายเบญจพล สุทธิ์วนิช รองกรรมการผู้จัดการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเอสแอล กล่าวว่า กำไรปกติของ IRPC ปีนี้มีโอกาสที่จะนำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 8.79 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 8.27 พันล้านบาทในปีที่แล้ว จากโครงการ UHV ที่แล้วเสร็จช่วยให้โรงกลั่นสามารถเดินเครื่องกลั่นน้ำมันได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้คาดว่าปีนี้ IRPC จะกลั่นน้ำมันได้ถึง 2.1 แสนบาร์เรล/วัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากเดิมที่การกลั่นน้ำมันที่ได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดจะอยู่ในระดับเพียง 1.7-1.8 แสนบาร์เรล/วันเท่านั้น

ขณะที่การขยายกำลังการผลิต PP ที่แล้วเสร็จทำให้มารฺ์จิ้นของธุรกิจปิโตรเคมีดีขึ้นด้วย นอกจากนี้การเดินเครื่องโรงไฟฟ้า IRPC-CP ที่ IRPC ถือหุ้นอยู่ 49% ได้เต็มปีในปีนี้นั้นก็จะทำให้ต้นทุนการผลิตของ IRPC ดีขึ้นด้วย

แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/61 อาจจะไม่ได้โดดเด่นมากนัก เนื่องจาก GRM ของธุรกิจโรงกลั่นมีแนวโน้มอ่อนตัวลงจากไตรมาสแรก ขณะที่ต้นทุนผลิตยังอยู่ในระดับสูงตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ โดยเฉพาะ Crude Premium ที่กดดันผลประกอบการไตรมาสแรก ปัจจุบันก็ยังทรงตัวในระดับสูง แต่ธุรกิจโรงกลั่นไม่ใช่ฐานกำไรหลักของ IRPC เมื่อเทียบกับธุรกิจปิโตรเคมี โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จากสายโอเลฟินส์ที่ยังค่อนข้างดี ก็จะเข้ามาช่วยชดเชยผลกระทบจากธุรกิจโรงกลั่น

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ระดับกว่า 70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ก็ทำให้มีโอกาสที่จะมีกำไรจากสต็อกน้ำมันในไตรมาส 2/61 จากที่ราคาน้ำมันดิบปิดสิ้นไตรมาส 1/61 อยู่ที่ราว 64-65 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

ส่วนการเข้าร่วมกับ WHA ทำธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมนั้น ก็ไม่ได้เกินความคาดหมาย หลัง IRPC เคยประกาศก่อนหน้านี้ที่จะพัฒนานิคมอุตสาหกรรม ซึ่งก็จะเข้ามาช่วยเป็นรายได้เสริมให้กับ IRPC ในอนาคต โดยราคาหุ้น IRPC ที่ปรับลดลงมามากก่อนหน้านี้ ทำให้ปัจจุบันยังมี Upside ราว 29% และมี dividend yield ราว 3.7% ทำให้เป็นจังหวะที่ดีต่อการเข้าลงทุน

ด้านบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า การที่ IRPC ร่วมลงทุนกับ WHA เพื่อพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในจ.ระยองนั้น เบื้องต้น IRPC จะสามารถบันทึกรายได้จากการขายที่ดินมูลค่า 620 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ 2,152 ไร่ ให้กับบริษัทร่วมทุน และคาดว่ากำไรจากการขายที่ดินที่จะบันทึกในไตรมาส 3/61 โดยกำไรคิดเป็นราว 1-2% ของกำไรสุทธิปีนี้ ขณะที่คาดว่า IRPC จะมีส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจร่วมทุนเข้ามาเฉลี่ยประมาณปีละ 100 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 1% ของกำไรสุทธิ

ในเชิงกลยุทธ์ แนะ"ซื้อ"หุ้น IRPC จากแนวโน้มผลประกอบการปี 61 คาดว่าจะเติบโตได้เมื่อเทียบกับปีก่อน เพราะอัตราการใช้กำลังการผลิตโรงกลั่นสูง 99% มาที่ 2.14 แสนบาร์เรล/วัน จากปี 60 มีปิดซ่อมบำรุงใหญ่โรงกลั่นในช่วงไตรมาส 1/60 และมีกำลังการผลิต PP เพิ่มขึ้น 3 แสนตัน/ปี รวมเป็น 7.75 แสนตัน/ปี รวมทั้งรับรู้รายได้จากโครงการ UHV เต็มที่ และโครงการ EVEREST ยังคงดำเนินการต่อ ประกอบกับมีส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้า IRPC-CP ระยะ 2 ขนาด 240 เมกะวัตต์ (MW) เข้ามาด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ