นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) คาดว่าแนวโน้มยอดขายไตรมาสที่ 2/61 จะเติบโตดีกว่าทั้งช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาส 1/61 ช่วยผลักดันให้ยอดขายทั้งปีตามเป้าที่ 20% จากเป้าหมายการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ มีการรับรู้รายได้จากการเข้าลงทุนใน บริษัท จิตรมาส แคเทอริ่ง จำกัด (JTC)
ในปีนี้บริษัทยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อการก้าวสู่อาณาจักรพลังงานครบวงจร หลังจากที่ในไตรมาส 1/61 ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์แห่งแรกของประเทศไทย ภายใต้บริษัท พีพีพี กรีน คอมเพล็กซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง PTG กับพันธมิตรอีก 2 ราย โดยเริ่มผลิตไบโอดีเซล หรือ B100 และน้ำมันปาล์มเพื่อบริโภค (โอเลอีน) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะเดินเครื่องจักรเต็มกำลังการผลิตภายในเดือน มิ.ย.61 ตามแผนที่ได้วางไว้
โครงการดังกล่าวจะมีกำลังการผลิตไบโอดีเซล 450,000 ลิตรต่อวัน และน้ำมันปาล์มเพื่อบริโภค 200,000 ลิตรต่อวัน โครงการดังกล่าวจะสามารถรับรู้รายได้อยู่ที่ประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาทต่อปี
ส่วนการเข้าลงทุนใน บริษัท จิตรมาส แคเทอริ่ง จำกัด (JTC) บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้ราว 60 ล้านบาท คาดว่าจะมีการเริ่มทดสอบ Structure และโรงงานจะเริ่มผลิตได้ในเดือน ก.ค.61 โดยจะเริ่มรับรู้รายได้ชัดเจนในไตรมาส 4/61 และจะถึงจุดคุ้มทุนในปี 62 โดยบริษัทตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ในธุรกิจ Non-oil ปีนี้ที่ระดับ 20% จากปัจจุบันที่ 8.4% เติบโตจากปีก่อนที่ระดับ 7.1%
นอกจากนั้น บริษัทยังคงเป้าหมายในการเพิ่มเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันและก๊าซให้ครบ 2,000 สาขา และเพิ่มธุรกิจ Non-oil ต่างๆ เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับสถานีบริการ โดยบริษัทยังคงเป้าปริมาณการจำหน่ายน้ำมันให้เพิ่มขึ้น 20-25% จากปีก่อน และ EBITDA เพิ่มขึ้น 40-45% จากปีก่อน รวมถึงตั้งงบลงทุน 4,000-5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในการขยายและปรับปรุงธุรกิจหลัก 3,000-3,300 ล้านบาท ธุรกิจ Non-oil 500-700 ล้านบาท และธุรกิจใหม่ 500-1,000 ล้านบาท เพื่อการสร้างมูลค่าเพิ่มขององค์กรในระยะยาว
"เรายังคงเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นธุรกิจน้ำมัน หรือ Non-oil เพื่อให้ PTG เป็นผู้ให้บริการด้านพลังงานครบวงจรอย่างแท้จริง โดยไม่ต้องพึ่งพาธุรกิจน้ำมันเพียงอย่างเดียว ซึ่งในปีนี้จะเห็นภาพการขยายของ Non-oil ที่ชัดเจน และจะเริ่มส่งผลกำไรที่ชัดเจนมากขึ้นด้วย ส่วนเป้าหมายการเติบโตในปีนี้เรายังคงการคาดการณ์เหมือนเดิม จากปริมาณการขายที่เติบโตขึ้น รายได้จากธุรกิจ Non-oil ที่เพิ่มมากขึ้น โดยเรามุ่งเน้นที่จะสร้างความหลากหลายให้กับสถานีบริการ เติมเต็มความต้องการของลูกค้า จากการมอบสินค้าที่สดใหม่ การให้บริการที่ประทับใจ และการให้สิทธิประโยชน์จาก บัตร PT Max Card ที่เชื่อมโยงสินค้าและบริการภายใต้เครือข่ายของพีทีจีเข้าด้วยกัน"นายพิทักษ์ กล่าว
ขณะเดียวกัน ในปีนี้บริษัทมองว่ามีโอกาสที่จะออกหุ้นกู้วงเงิน 600-1,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการลงทุนใหม่ในอนาคต ขณะที่บริษัท ทริสเรตติ้ง จำกัด จัดอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกหุ้นกู้ที่ BBB+ นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมลงทุนในธุรกิจก๊าซหุงต้มในครัวเรือน (LPG) กับพันธมิตร 1 ราย คาดว่าจะสามารถสรุปได้ในไตรมาส 4/61