บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด แต่งตั้งบริษัท แอสเซท โปร แมแนจเม้นท์ จำกัด (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึงการจัดโครงสร้างธุรกิจ และโครงสร้างทางการเงิน ให้มีความเหมาะสม เพื่อเพิ่มศักยภาพและโอกาสทางด้านธุรกิจ ฃ
นอร์ทอีส รับเบอร์ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน (Ribbed Smoked Sheet : RSS) ยางแท่ง (Standard Thai Rubber: STR) และยางผสม (Mixture Rubber) เพื่อจำหน่ายให้กับผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ รวมไปถึงกลุ่มผู้ค้าคนกลางทั้งในและต่างประเทศ เช่น จีน สิงคโปร์ และมาเลเซีย สำหรับยางแปรรูปส่วนใหญ่จะนำไปใช้เป็นวัตถุดิบที่สำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์ นอกจากนี้ยังใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตกลุ่มผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้ในงานวิศวกรรม เช่น สายพาน ท่อยาง และกลุ่มผลิตภัณฑ์ยางอื่นๆ เป็นต้น
ทั้งนี้ บริษัทมีสัดส่วนการจำหน่ายสินค้าให้แก่ลูกค้าในประเทศประมาณ 60% และส่งออกต่างประเทศประมาณ 40 % ของยอดขายทั้งหมด
นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจแปรรูปยางพารา ปี 61 ยังมีแนวโน้มเติบโตดีเช่นเดียวกับเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะเติบโตไม่น้อยกว่า 3% ซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งออกไทย โดยเฉพาะยางพาราแปรรูปที่จะส่งออกไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมวยานยนต์ของจีน และอินเดียที่ยังมีความต้องการใข้ยางแปรรูปเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีความต้องการใช้ยางแปรรูปมากที่สุด ด้านความต้องการใช้ยางพาราในประเทศยังมีต่อเนื่อง
ด้านนายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ กล่าวว่า นอร์ทอีส รับเบอร์ อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างบริษัทฯ รวมถึงการเตรียมความพร้อมต่างๆ คาดว่าจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในเดือน มิ.ย.นี้ เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ระดมทุนมาใช้ในการขยายกำลังการผลิต
สำหรับวัตถุประสงค์การระดมทุนของบริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ขยายกำลังการผลิตเพิ่มจากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตรวม 230,000 ตัน/ปี และส่วนหนึ่งจะนำไปใช้บริหารสภาพคล่องของบริษัท เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต
"เราเห็นโอกาสของนอร์ทอีสฯ ที่เติบโตดี โดยปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้สูงที่ 9.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นมาตลอดทุกปี และกำลังการผลิตยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นโอกาสดีที่จะนำเข้าตลาด เพื่อเสริมสภาพคล่องให้แข็งแกร่ง และเป็นเงินทุนในการขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติมจากปัจจุบัน"นายสมภพ กล่าว