ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,757.30 จุด ลดลง 3.41 จุด (-0.19%) มูลค่าการซื้อขาย 30,755.90 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,759.25 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,749.87 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในลักษณะรอผลศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติตีความร่างกฎหมายที่มา ส.ว.ซึ่งหากผลออกมาผ่านทั้งหมด ตลาดฯจะดีดตัวขึ้นมาทดสอบ 1,775 จุด แต่ถ้าตีกลับในบางส่วน ตลาดฯก็อาจะลงไปทดสอบ 1,740-1,745 จุด และหากเกิดกรณีแย่สุดคือตีตกไปทั้งฉบับ ตลาดฯอาจลงไปทดสอบเส้น 200 วันแถว 1,730 จุด แต่ก็ลุ้นให้ผลออกมาผ่านทั้งฉบับ
ทั้งนี้ ตลาดฯรับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มน้ำมัน หลังจากกระทรวงพลังงานจะตรึงราคาน้ำมันดีเซล โดยใช้เม็ดเงินจากกองทุนน้ำมันที่มีเม็ดเงินช่วยเหลือราว 3 หมื่นล้านบาท หากทำได้ก็จะไม่มีผลต่อผู้ประกอบการ เพราะรัฐฯรับไป แต่ถ้าราคาน้ำมันปรับขึ้นไปเร็ว กองทุนน้ำมันอาจจะรับไม่ไหว ท้ายสุดผู้ประกอบการก็ต้องรับภาระไปด้วย ซึ่งจุดนี้สร้างความกังวลให้กับนักลงทุน
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะติดลบ รับแรงกดดันจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับผลการเจรจาเรื่องการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ รวมถึงเรื่องที่ทรัมป์จะเจรจากับเกาหลีเหนือเริ่มเห็นการเล่นแง่ หลังทรัมป์ระบุว่ามีโอกาสสูงมากที่การประชุมสุดยอดกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ จะไม่เกิดขึ้นในเดือน มิ.ย.พร้อมกับเน้นย้ำว่า การประชุมสุดยอดจะไม่เกิดขึ้นหากเกาหลีเหนือไม่ยินยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขบางประการ
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวิจิตร กล่าวว่า ทิศทางตลาดฯขึ้นอยู่กับผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมให้แนวรับ 1,745 จุด ส่วนแนวต้าน 1,775 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 8,660.49 ล้านบาท ปิดที่ 53.75 บาท ลดลง 1.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,452.10 ล้านบาท ปิดที่ 146.00 บาท ลดลง 3.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,390.13 ล้านบาท ปิดที่ 81.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 871.37 ล้านบาท ปิดที่ 26.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 737.89 ล้านบาท ปิดที่ 468.00 บาท ลดลง 2.00 บาท