นางสาวกาญจนันท์ ปาณานนท์ ผู้จัดการฝ่ายตลาดทุนและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ปตท.สผ. (PTTEP) เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดปริมาณการขายปิโตรเลียมปีนี้จะทำได้ 3 แสนบาเรล/วัน ในขณะที่ไตรมาส 2/61 คาดทำได้ 2.97 แสนบาเรล/วัน หลังกำลังการผลิตในมอนทาร่าและซอติก้ากลับมาเดินเครื่องได้ตามปกติจากที่ปิดปรับปรุงไปก่อนหน้านี้
ส่วนอัตรากำไรก่อนภาษี ค่าเสื่อม และ ดอกเบี้ยจ่าย (EBITDA margin) ไตรมาส 2/61 และทั้งปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 70-75% หลังจากเข้าซื้อหุ้นในแหล่งบงกชจากกลุ่มเชลล์เพิ่มเข้ามา 22% ส่งผลให้ปัจจุบัน PTTEP ถือหุ้นเพิ่มเป็น 66% ส่งผลให้มีปริมาณการขายเพิ่มขึ้นมาอีก 1.7 หมื่นบาเรล/วันในปีนี้ นอกจากนี้ บริษัทยังตั้งเป้ารักษาระดับต้นทุนผลิตต่อหน่วย (unit cost) ปีนี้ไว้ที่ 30-31 เหรียญ/บาเรล ส่วนไตรมาส 2/61 คาดอยู่ที่ 31 เหรียญ/บาเรล โดยบริษัทฯได้ปรับวิธีการทำงานเพื่อลดต้นทุนต่อหน่วยลงเพื่อให้สอดคล้องกับราคาน้ำมัน และ เน้นขยายการลงทุน ตลอดจนเติบโตในพื้นที่ที่มีความเชี่ยวชาญและพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง
ขณะที่บริษัทยังมองหาการลงทุนและพัฒนาแหล่งสัมปทานปิโตรเลียมเพิ่มเติม โดยล่าสุดที่บราซิลและเม็กซิโก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง ในขณะเดียวกันก็เริ่มเพิ่มงบประมาณการสำรวจปิโตรเลียมมากขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการค้นพบแหล่งใหม่ ๆ
นางสาวกาญจนันท์ กล่าวอีกว่า ล่าสุดบริษัทมีกระแสเงินสดในมือ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยในไตรมาส 2/61 บริษัทมีแผนจะชำระคืนหนี้ธนาคาร 575 ล้านเหรียญสหรัฐ และการจ่ายเงินเพื่อขยายสัดส่วนการถือหุ้นแหล่งบงกชในอ่าวไทย 750 ล้านเหรียญสหรัฐ และการจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอีก 350 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้กระแสเงินสดในมือลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
แต่อย่างไรก็ตาม กระแสเงินสดในมือเพียงพอต่อการหาแหล่งปิโตรเลียมใหม่ และ การเข้าประมูลแหล่งบงกชและเอราวัณรอบใหม่