บมจ.วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย (VGI) มั่นใจว่ารายได้จะพุ่งแตะ 1 หมื่นล้านบาทภายใน 3 ปีจาก 4 พันล้านบาทในงวดปี 60/61 ภายใต้ 3 แพลตฟอร์มหลัก คือ ธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจให้บริการชาระเงิน และธุรกิจโลจิสติกส์ ซึ่งจะเปิดโอกาสทางธุรกิจอีกมากจากการเติบโตของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ (e-Commerce) และส่งผลให้วีจีไอมีรายได้เพิ่มขึ้นจากงบการตลาดอีกด้วย ทั้งหมดนี้ทำให้วีจีไอมีโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการเจริญเติบโตและแข่งขันในตลาดได้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
และจากล่าสุด VGI เข้าซื้อหุ้น 23% ของบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด ด้วยมูลค่ากว่า 5,900 ล้านบาท5nอเป็นหนึ่งในการลงทุนครั้งสาคัญที่มีมูลค่าสูงสุด สิ่งที่ทำให้ VGI ประสบความสำเร็จในการลงทุนครั้งนี้ คือการมีโอกาสเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรงผ่านแพลตฟอร์มของธุรกิจโลจิสติกส์ที่จะเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจทั้งหมดจนเกิดเป็นโมเดลธุรกิจที่สมบูรณ์แบบ สามารถรองรับเทรนด์ของตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ วางเป้าหมายธุรกิจในอีก 3 ปีข้างหน้า ธุรกิจสื่อโฆษณาเป็นรายได้หลัก มีสัดส่วน 60% ที่มีสื่อโฆษณาใน transit, outdoor, office building media, digital services โดยคาดว่ามีอัตราเติบโต 40% ที่เหลือเป็นธุรกิจให้บริการชำระเงินทีจะมีการจ่ายผ่าน Rabbit card และ Rabbit Line Pay ที่จะเพิ่มจำนวนการใช้เป็น 10 ล้านบาท/วัน จาก 1 ล้านบาท/วันในปัจจุบัน ส่วนธุรกิจโลจิสติกส์ เพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านชิ้นต่อวันจาก 1 ล้านชิ้นต่อวันในปัจจุบัน ทั้งนี้ผ่าน Big Data ที่มีอยู่ ซึ่งคาดว่าจะมีฐานผู้ใช้เพิ่มเป็น 40 ล้านคนจากปัจจุบันมี 16 ล้านคน
นายกวิน กาญจนพาสน์ ประธานคณะกรรมการบริหาร VGI คาดว่ารายได้งวดปี 61/62 จะอยู่ราว 4.6-4.7 พันล้านบาท หรือเติบโต 15-20% (ไม่รวมธุรกิจ Kerry) จากงวดปีก่อน โดยคาดว่าอัตรากำไรสุทธิจะอยู่ที่ระดับ 23% จากแนวโน้มตลาดโฆษณาเติบโตต่อเนื่อง จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาและเจรจากับพันธมิตรในธุรกิจใหม่เพื่อต่อยอดให้ธุรกิจเดิม อาทิ สื่อวิทยุและโทรทัศน์ คาดว่าจะมีความชัดเจนในปี 62 รวมทั้งยังมองหาโอกาสในการขยายไปยังธุรกิจอื่นที่อาจไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโฆษณา หากธุรกิจนั้นสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดี
นอกจากนี้ บริษัทมองเห็นโอกาสในการพัฒนาปรับปรุงธุรกิจเดิม โดยมีการวางงบลงทุนกว่า 1 พันล้านบาท ในการเปลี่ยนแปลงป้ายบิลบอร์ดโฆษณาเดิมให้เป็นสื่อในรูปแบบดิจิทัล ขณะเดียวกันยังสนใจในการพัฒนาระบบ AI เพื่อเข้ามาช่วยให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น จากข้อมูล data ที่บริษัทมี ตามกลยุทธ์ O2O (Offline-to-Online) Solutions ของบริษัท
นายกวิน กล่าวอีกว่า บริษัทมีความสนใจในการร่วมลงทุนกับบริษัท KERRY ในการนำสื่อโฆษณาเคลื่อนที่บนรถขนส่งสินค้า คาดว่าจะมีการนำเสนอสู่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 5 ก.ค.นี้ เพื่อเป็นการขยายช่องทางการสร้างรายได้และฐานสื่อโฆษณาให้ครบวงจรยิ่งขึ้น จากการที่ปัจจุบัน KERRY มีการขนส่งสินค้ากว่า 7.5 แสนชิ้นต่อวัน
"บริษัทไม่ได้ปิดกั้นการร่วมทุน จะต้องต่อยอดธุรกิจสื่อโฆษณาเท่านั้น เพราะที่ผ่านมาเราได้ร่วมมือกับอิออน (AEON) สร้างผลตอบแทนเป็นอย่างดี ฉะนั้นหากดีลไหนมีอนาคตก็พร้อมลงทุน" นายกวิน กล่าว
ส่วนแหล่งเงินทุน ในการขยายการลงทุนอื่น ๆ และการร่วมลงทุนกับ KERRY บริษัทคาดว่าจะระดมทุนได้จากการแปลงสภาพ VGI-W1 ราว 1.2 หมื่นล้านบาท ที่คาดว่าจะรับรู้เข้ามาในปีนี้