นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมแผนลงทุนโครงการผลิตไบโอดีเซล 8 แสนลิตรต่อวัน และผลิตกรีนดีเซล, สารเปลี่ยนสภาพ (PCM) ขนาด 1.3 แสนลิตรต่อวัน โดยจะใช้งบลงทุนราว 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างในช่วงปลายปีนี้ โดยปัจจุบันมีผู้สนใจเข้าร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าว เบื้องต้นได้มีการเจรจากับ บมจ.โกลบอลกรีนเคมิคอล (GGC) แต่อย่างไรก็ตามต้องมองถึงความเหมาะสมก่อน ซึ่งบริษัทฯจะถือหุ้นในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 80% "กรีนดีเซล หรือน้ำมันดีเซลที่สามารถผลิตได้จากไบโอดีเซล ปัจจุบันมีการใช้ผสมในน้ำมันดีเซลบ้างแล้ว จะเป็นสินค้าที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัท และมีความต้องการมากขึ้นในปัจจุบัน ขณะที่ PCM คือส่วนผสมที่จะสามารถใช้ได้ในเสื้อผ้า หรือสิ่งก่อสร้าง โดยจะสามารถลดความร้อนในช่วงกลางวัน และจะช่วยให้ความอบอุ่นในช่วงที่อากาศเย็น ที่เชื่อว่าอยาคตจะมีความต้องการมากขึ้น โดยในประเทศญี่ปุ่นจะมีการบังคับใช้ให้ผสมสารดังกล่าวในสิ่งก่อสร้างต่างๆที่เกิดขึ้นในปี 63 เป็นต้นไป ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ชนิดนี้จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มจากเดิมที่บริษัทฯจำหน่ายเพียงไบโอดีเซลปกติ"นายอมร กล่าว
สำหรับงบลงทุนรวมปี 61-62 ที่บริษัทตั้งไว้มูลค่า 2.47 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนโครงการหนุมาน 18,000 ล้านบาท โครงการไบโอดีเซล 2,000 ล้านบาท โครงการโนงงานผลิตแบตเตอรี่เฟส 1 มูลค่า 4,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 700 ล้านบาทจะใช้ในการลงทุนตั้งสถานีชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ให้ครบ 1,000 ภายในปีนี้
นายอมร กล่าวว่า บริษัทยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุนอย่างแน่นอน เนื่องจากบริษัทยังมีกระแสเงินสดเพียงต่อการลงทุนโครงการต่างๆ โดยปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสดเข้ามาราว 7,000-8,000 ล้านบาท/ปี รวมทั้งได้ขอที่ประชุมผู้ถือหุ้นกำหนดวงเงินออกหุ้นกู้ไว้แล้วมูลค่าไม่เกิน 20,000 ล้านบาท
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม จังหวัดชัยภูมิ หรือ "โครงการหนุมาน" ขนาดกำลังการผลิต 260 เมกะวัตต์ มีความคืบหน้าการก่อสร้างเป็นอย่างมาก โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างทยอยติดตั้งเสากังหันจำนวนรวมทั้งสิ้น 103 ชุด ขนาดชุดละประมาณ 2.5 เมกะวัตต์ โดยได้จัดพิธีติดตั้งใบพัดกังหันลม (Blade Lifting Ceremony) ในวันนี้
ภายหลังการติดตั้งชุดอุปกรณ์เสร็จสิ้นทั้งหมด บริษัทจะเริ่มทำการทดสอบระบบการผลิตและจ่ายไฟฟ้า ก่อนที่จะเริ่มการขายไฟเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในไตรมาส 4/61 ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าของบริษัททั้งจากโซลาร์ฟาร์มและวินด์ฟาร์ม เพิ่มเป็น 664 เมกะวัตต์ ผลักดันรายได้และกำไรในปี 61 และ 62 ให้เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
"โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมหนุมาน ขนาดความสูงของเสากังหันลมอยู่ที่ 153 เมตร เทียบเท่าตึก 43 ชั้นซึ่งถือได้ว่ามีขนาดใหญ่และใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย เหมาะสำหรับสภาพความเร็วลมของภาคอีสานเป็นอย่างดี"นายอมร กล่าว
หลังจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมโครงการหนุมาน จ่ายไฟเข้าระบบตามแผน จะทำให้เรากุมกำลังการผลิตไฟฟ้ากว่า 664 เมกะวัตต์ มีกระแสเงินสดหมุนเวียนเพิ่มขึ้น เพียงพอสำหรับแผนการลงทุนในช่วง 1-2 ปีนี้ (61-62) ที่เตรียมใช้งบลงทุนกว่า 2.47 หมื่นล้านบาท สำหรับขยายการลงทุนโรงไฟฟ้า โรงงานผลิตไบโอดีเซล สถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ และโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่เฟส 1 เมื่อผนวกกับแผนการจัดหาเงินโดยการออกหุ้นกู้ การกู้ยืมจากสถาบันการเงินและเงินสดหมุนเวียนทำให้ไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุน
นายอมร กล่าวอีกว่า โครงการหนุมาน เป็นโรงไฟฟ้าแห่งสุดท้ายในมือที่บริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนา บริษัทยังคงมองหาเพื่อซื้อกิจการโรงไฟฟ้า หรือเข้าร่วมลงทุนโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยปัจจุบันบริษัทเจรจาอยู่ 4-5 โครงการในประเทศเวียดนาม กำลังการผลิตกว่า 200 เมกะวัตต์ แต่ต้องรอถึงความเหมาะสม และประเมินความเสี่ยงต่างๆที่มีก่อน