นายบุรณิน รัตนสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจหล่อลื่น บมจ.ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า ปตท.คาดยอดขายน้ำมันหล่อลื่นปีนี้เติบโต 5% จากปีก่อนมาที่ 160-180 ล้านลิตร แม้ว่าในช่วงไตรมาสแรกยอดขายลดลง 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตเมื่อช่วงต้นปีก่อนทำให้ลูกค้าสต็อกสินค้าน้ำมันหล่อลื่นมากขึ้น ขณะที่ช่วงที่เหลือของปีนี้จะรุกตลาดทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งจะผลักดันให้ยอดขายเติบโตได้ตามเป้าหมายในปีนี้
ทั้งนี้ ปตท.วางเป้าจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นในประเทศปีนี้ 160 ล้านลิตร เติบโตราว 3-5% จากปีที่แล้ว จากการขยายไปยังลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังมีตลาดเติบโต หลังเครื่องจักรของอุตสาหกรรมต่างๆเริ่มหมดระยะเวลาประกัน ทำให้ต้องมีการบำรุงรักษาเครื่องจักรกลเอง โดยมีแผนจะเพิ่มสัดส่วนยอดจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นในกลุ่มอุตสาหกรรม เป็น 50% ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบัน มีสัดส่วนอยู่ที่ 40%
ขณะที่สัดส่วนการขายสำหรับกลุ่มยานยนต์ปัจจุบันอยู่ที่ 60% ซึ่งตลาดเริ่มอยู่ในภาวะทรงตัว ดังนั้น ปตท.ก็จะขยายช่องทางจำหน่ายออนไลน์ และขายตรงเข้ามาช่วยเพิ่มการจัดจำหน่าย ล่าสุดของได้จับมือเป็นพันธมิตรกับบริษัท บริดจสโตน เอ.ซี.ที (ประเทศไทย) เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นของ ปตท. ในศูนย์บริการ "แอค" (A.C.T) ที่มีอยู่ 78 แห่งทั่วประเทศ ขณะที่ ปัจจุบัน ปตท.มีศูนย์บริการรถยนต์ฟิตออโต้อยู่ 35 แห่ง และจะเพิ่มเป็น 40 แห่งในสิ้นปีนี้
สำหรับในต่างประเทศ ปตท.ตั้งเป้ายอดขายน้ำมันหล่อลื่นในปีนี้ที่ 28-30 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 15-20% จากปีที่แล้ว โดยเป็นการเติบโตจากตลาดในประเทศเปิดใหม่ โซนแอฟริกา เอเชียใต้ บังคลาเทศ โมร็อคโค เอธิโอเปีย ส่วนประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา กัมพูชา เวียดนาม เป็นการเติบโตในอัตราปกติ
นอกจากนี้ ปตท.เตรียมรุกตลาดในจีน ซึ่งนับเป็นตลาดใหญ่ โดยจะตั้งบริษัท พีทีทีโออาร์ ไชน่า จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้ง คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ราวเดือนก.ค.-ส.ค.นี้ ซึ่งตั้งเป้าหมายจะจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่น และร้านกาแฟ อเมซอน ซึ่งปตท.มีแผนเปิดร้านกาแฟ อเมซอน ให้ได้ 2 สาขา หลังจากนั้นขยายรูปแบบแฟรนไชส์ต่อไป
โดยบริษัท พีทีทีโออาร์ ไชน่า จำกัด จะเป็นบริษัทย่อยของบมจ.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (PTTOR) ซึ่งปัจจุบัน PTT อยู่ระหว่างเตรียมการโอนทรัพย์สินธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกให้กับ PTTOR ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้
ทั้งนี้ จีนนับว่าเป็นตลาดที่มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นมากที่สุดในโลก อยู่ที่ประมาณ 8,000-10,000 ล้านลิตร/ปี เทียบกับไทย มีความต้องการใช้อยู่ที่ 800 ล้านลิตร/ปี หรือมากกว่าประเทศไทย 10 เท่า ซึ่งปัจจุบัน ปตท.มียอดจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นในจีน อยู่ที่ประมาณ 3-5 ล้านลิตร/ปี และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 10 ล้านลิตรในปี 62 ก่อนจะเพิ่มเป็น 50 ล้านลิตร ภายใน 5 ปีข้างหน้า
สำหรับการขยายตลาดในประเทศจีนนั้น ในอนาคตยังมองถึงการเข้าไปซื้อกิจการ(M&A) หรือร่วมลงทุน(JV) ทั้งโรงงานผลิต หรือ บริษัทที่ทำธุรกิจน้ำมันหล่อลื่น และรูปแบบจ้างผลิต(OEM) ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสมในระยะต่อไป
นายบุรณิน กล่าวอีกว่า ปตท.วางเป้าเจาะตลาดน้ำมันหล่อลื่นในต่างประเทศปีละ 2-3 ประเทศ จากปัจจุบันมีลูกค้าอยู่ 40 ประเทศทั่วโลก โดยจะเน้นเจาะกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา เนื่องจากยังมีความต้องการใช้น้ำมันหล่อลื่นจำนวนมาก โดยจะใช้กลยุทธ์ความเป็นแบรนด์ที่ได้รับมาตรฐานระดับสากลเข้าไปทำตลาด ส่วนประเทศที่พัฒนาแล้วจะใช้กลยุทธ์เจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม เช่น กลุ่มแข่งขันรถยนต์ เป็นต้น