นายกวิน กาญจนพาสน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถผลักดันกำไรสุทธิได้บรรลุตามเป้าหมายระยะยาวที่ตั้งไว้ คือคาดว่าจะมีกำไรจากการดำเนินงานปกติ เติบโตเฉลี่ยปีละ 25% และคาดว่ารายได้ปี 61/62 (เม.ย.61-มี.ค.62) จะเติบโตก้าวกระโดดถึง 200% ซึ่งผลการดำเนินงานที่คาดว่าจะเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่องนี้ จะทำให้บีทีเอส กรุ๊ป สามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ตามที่ตั้งใจไว้ เพื่อเป็นการตอบแทนความไว้วางใจและการสนับสนุนที่ผู้ถือหุ้นมีให้แก่กลุ่มบริษัทเสมอมา
สำหรับรายได้ปีนี้ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 200% จะยังคงมาจากธุรกิจหลัก คือระบบขนส่งมวลชน ทั้งการรับรู้รายได้ต่อเนื่องจากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า (O&M) และจากการรับเหมาติดตั้งงานระบบและจัดหารถไฟฟ้าสำหรับรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือและใต้ รวมทั้งปีนี้บีทีเอสฯ จะบันทึกรายได้จากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลือง ขณะที่ยังคาดว่าจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายหลักจะเพิ่มขึ้นอีก 4-5% ขณะที่อัตราค่าโดยสารเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.5-2%
ส่วนความคืบหน้าส่วนต่อขยายเส้นทางสายสีเขียวใต้ (แบริ่ง-สมุทรปราการ) คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ตลอดสายในเดือนธ.ค.ปีนี้ และเส้นทางสายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-คูคต) คาดว่าสถานีแรกคือสถานี 5 แยกลาดพร้าวจะเปิดให้บริการได้ต้นปี 62 จากการเปิดให้บริการทั้งสองช่วงนี้ จะทำให้ผู้โดยสารมีความสะดวกในการเดินทางจากเส้นทางที่ครอบคลุมและเชื่อมต่อกันมากขึ้น
"เป้าหมายกลุ่มบีทีเอส คือการเป็นผู้นำในการพัฒนาและให้บริการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่ดีที่สุดของประเทศไทย ดังนั้น บริษัทจึงมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการเข้าร่วมประมูลโครงการรถไฟฟ้า ตามแผนของรัฐบาลทุกโครงการ เพราะถือเป็นธุรกิจหลักที่บีทีเอสฯ มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญมากที่สุด โดยมีความพร้อมในทุกด้านทั้งเงินทุน พันธมิตรและเทคโนโลยี ซึ่งโครงการรถไฟฟ้านอกจากจะเป็นตัวขับเคลื่อนสร้างรายได้หลักให้บริษัทแล้ว ยังสามารถต่อยอดและเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจสื่อโฆษณาและอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ภายใต้กลุ่มบีทีเอสด้วย"นายกวิน กล่าว
นายกวิน กล่าวอีกว่า สำหรับธุรกิจสื่อโฆษณาภายใต้การบริหารงานของ บมจ.วีจีไอ โกลบอล มีเดีย (VGI) นั้น ได้ตั้งเป้ารายได้ภายใน 3 ปีนี้ จะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 10,000 ล้านบาท ในงวดปี 63/64 เพิ่มขึ้นจากงวดปี 60/61 ที่มีรายได้ราว 4,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปัจจุบันวีจีไอเป็นบริษัทที่ให้บริการสื่อโฆษณานอกบ้านที่ผสานสื่อออฟไลน์และออนไลน์ ไว้ด้วยกันแบบครบวงจรเป็น O2O Solutions รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย โดยธุรกิจวีจีไอประกอบด้วย 3 แพลตฟอร์มหลักคือ ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านทั้งหมด ธุรกิจให้บริการชำระเงินของแรทบิทกรุ๊ป และธุรกิจโลจิสติกส์ที่ครบวงจรของเคอรี่ เอ็กเพรส โดยมีดาต้าหรือฐานข้อมูลผู้บริโภคกระจายอยู่ในทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้วีจีไอ สามารถนำเสนอโซลูชันส์ ให้ลูกค้าในการใช้สื่อโฆษณาได้อย่างหลากหลายครบวงจร ทั้ง 360 องศา เพื่อให้สื่อสารถึงผู้บริโภคได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ในเวลาที่ถูกต้อง ด้วยโฆษณาที่ตรงจุด และยังสามารถวัดผลได้ ซึ่งถือเป็นความได้เปรียบที่เหนือคู่แข่ง
สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น หลังจากปรับโครงสร้างและโอนสินทรัพย์ของกลุ่มบีทีเอสให้มาอยู่ภายใต้ บมจ.ยู ซิตี้ (U) แล้ว บีทีเอส กรุ๊ปจะถือหุ้นใน U ราว 39% โดยพอร์ตของ U มีขนาดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และสร้างรายได้เข้าบริษัทได้ทันที โดยปัจจุบัน U มีโรงแรมภายใต้การบริหารรวมกันกว่า 19,000 ห้องทั้งในประเทศและต่างประเทศ นับเป็นหัวหอกในการรุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้กับกลุ่มบีทีเอส โดยปีนี้จะเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งจากสินทรัพย์ที่มีอยู่ในมือและที่จะขยายการลงทุนเพิ่ม