โบรกเกอร์ แนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) จากแนวโน้มผลการดำเนินงานในใตรมาส 2/61 คาดว่าจะเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/61 และช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ที่สร้างเสร็จโอนเข้ามาเพิ่มอีก 1-2 โครงการ ขณะเดียวกันยังมีการระบายสต็อกอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างรายได้กลับมา
นอกจากนี้ ยังทยอยเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่อง จากในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ทำยอดขายได้แล้วกว่า 3 พันล้านบาท โดยโครงการคอนโดมิเนียมย่านสุทธิสารสามารถสร้างยอดขายได้ดีถึง 70% เชื่อว่าจะผลักดันให้ LPN ทำยอดขายได้ตามเป้าหมายปีนี้ที่ 2 หมื่นล้านบาท
สำหรับภาพรวมของผลการดำเนิน LPN ในปีนี้คาดว่าจะฟื้นตัวกลับมาหลังจากผ่านจุดต่ำสุดไปเมื่อปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.06 พันล้านบาท ลดลงราว 51% จากปี 60 โดยผลการดำเนินงานฟื้นตัวในปีนี้ เพราะมีการโอนโครงการใหม่มากขึ้น อีกทั้งยังมีการปรับกลยุทธ์การดำเนินงานเพื่อกระจายรายได้ รองรับการขยายตัวในอนาคตด้วย
ช่วงบ่ายหุ้น LPN อยู่ที่ 9.75 บาท ลดลง 0.05 บาท หรือ 0.51% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ลดลง 0.93%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) บัวหลวง ซื้อ 14.20 เอเซีย พลัส ซื้อ 13.50 ทรีนีตี้ ซื้อเก็งกำไร 13.00 เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ ซื้อ 12.20 หยวนต้า (ประเทศไทย) ซื้อ 11.60
นางสาวนฤมล เอกสมุทร นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า กำไรของ LPN ในไตรมาส 2/61 คาดว่าจะเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่หากเทียบกับไตรมาส 1/61 จะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน เนี่องจากจะมีโครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่โอนเพิ่มมาอีก 1 โครงการ คือ ลุมพินี วิลล์ พระนั่งเกล้า-ริเวอร์วิว และการโอนโครงการต่อเนื่องจากไตรมาสแรกที่มีโครงการใหม่ 3 โครงการ ส่งผลให้แนวโน้มกำไรดีกว่าไตรมาส 2/60 อย่างมีนัยสำคัญ แต่อาจจะยังทรงตัวจากไตรมาส 1/61 เพราะโครงการใหม่ที่เริ่มโอนในไตรมาสนี้ทำยอดจองไม่มากนักโดยอยู่ที่เกือบ 30%
อย่างไรก็ตาม ยังคงประมาณการกำไรของ LPN ในปี 61 เติบโต 51% จากปีก่อน หลังจากที่การโอนโครงการต่างๆเป็นไปตามแผนงาน และการทยอยขายโครงการที่อยู่ในสต็อก ประกอบกับการที่ LPN มีการกระจายรายได้ไปในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทอี่นๆ มากขึ้น ล่าสุดได้เปิดตัวอาคารสำนักงานใหม่ย่านวิภาวดี ซอย 3 จะหนุนการสร้างรายได้ประจำในอนาคต และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 61 เป็นต้นไป
นางสาวเติมพร ตันติวิวัฒน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของ LPN ในไตรมาส 2/61 จะเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/61 และช่วงเดียวกันของปีก่อน จากโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ที่โอนเพิ่มอีก 1-2 โครงการ ประกอบกับมี Backlog อยู่ที่ 6.8 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยโอนในไตรมาสที่เหลือของปีนี้อีกกว่า 5 พันล้านบาท ผลักดันให้ภาพรวมของผลการดำเนินงานทั้งรายได้แลขกำไรของ LPN ในปีนี้ฟื้นตัวขึ้น จากการมีโครงการใหม่โอนเพิ่มมากขึ้น และการทยอยระบายสต็อกพร้อมขายเพื่อสร้างรายได้กลับมาให้กับ LPN โดยที่ยังประมาณการกำไรในปีนี้เติบโต 37% จากปีก่อน
ด้านนักวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/61 ของ LPN จะดีขึ้นจากไตรมาส 1/61 และช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการที่มีโครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการที่สร้างเสร็จใหม่เริ่มทยอยโอน และคาดว่าจะเห็นการเติบโตที่ชัดเจนมากที่สุดในช่วงไตรมาส 4/61 เพราะมีการโอนโครงการที่สร้างเสร็จใหม่มากถึง 5 โครงการ ซึ่งมองว่าเป็นไตรมาสที่จะมีผลการดำเนินงานสูงที่สุดในปีนี้
ขณะที่การเปิดโครงการใหม่ในไตรมาส 2/61 มีทั้งหมด 6 โครงการ มูลค่า 8.95 พันล้านบาท โครงการ Lumpini Selected สุทธิสารที่เปิดตัวไปแล้วสามารถทำยอดขายได้ดีถึง 70% และยังมีโครงการ Lumpini Park จุตจักร-วิภาวดีที่จะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่คาดว่าจะสร้างยอดขายได้ดี และผลักดันให้ยอดขายทั้งปีนี้เป็นไปตามเป้าที่ LPN ตั้งไว้ 2 หมื่นล้านบาท โดย 4 เดือนแรกทำยอดขายได้แล้วกว่า 3 พันล้านบาท
ทั้งนี้ ในภาพรวมมองว่าผลการดำเนินงานของ LPN ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 60 และในปีนี้จะฟื้นตัวกลับมาจากการทยอยโอนโครงการมากขึ้น