นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) เปิดเผยว่า ตามที่ในปี 2557 เจ้าหนี้สถาบันการเงิน กลุ่มหนึ่งได้เป็นโจทก์ฟ้องบริษัทเป็นจำเลย เพื่อเรียกร้องให้บริษัทชำระหนี้จากผลของคำพิพากษาศาลฎีกาซึ่งให้ยกเลิกคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการนั้น
เมื่อวันที่ 30 พ.ค.61 ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางได้พิพากษาให้บริษัทชำระเงินต้นบวกดอกเบี้ยจนถึงวันฟ้องให้แก่เจ้าหนี้รายนั้น เป็นจำนวนเงินประมาณ 1,049 ล้านเยน หรือคิดเป็นเงินบาทประมาณ 313.9 ล้านบาท (คำนวณโดยอ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารแห่งประเทศไทย ( อัตราขายถัวเฉลี่ย) ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2561 โดย 0.299283 เยน เท่ากับ 1 บาท) และให้ชำระดอกเบี้ยของเงินต้นดังกล่าว จนกว่าบริษัทจะชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้รายนั้นเสร็จสิ้น
ด้วยความเคารพต่อคำพิพากษาศาลชั้นต้น บริษัทเห็นแตกต่างกับคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในประเด็นข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย บริษัทจึงประสงค์ที่จะใช้สิทธิอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าวต่อไป
อย่างไรก็ดี บริษัทได้บันทึกประมาณการหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นจากการฟ้องร้องของเจ้าหนี้รายดังกล่าวไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วในงบการเงินของบริษัทเป็นจำนวนประมาณ 137.2 ล้านบาท บริษัทจึงเชื่อว่าคำ พิพากษาของศาลดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ