นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อาร์เอส (RS) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีแผนจะจำหน่ายหุ้น RS ออกมาแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกลับเล็งเห็นโอกาสและจังหวะที่ดีจึงเข้าไปซื้อลงทุนเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เมื่อวันพุธที่ 30 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา เพิ่งซื้อหุ้น RS เพิ่มอีก 2.5 ล้านหุ้น คิดเป็นเงิน 46.84 ล้านบาท หลังจากตั้งแต่ต้นปี 2561 ที่ผ่านมาได้ทยอยซื้อหุ้นรวมมูลค่ากว่า 700 ล้านบาท ทำให้ปัจจุบันมีหุ้นแล้วรวมทั้งหมดกว่า 347.90 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 34% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
สาเหตุที่ทยอยซื้อหุ้นเพิ่มต่อเนื่องในห้วงเวลานี้ เนื่องจากมองว่าราคาหุ้น RS ที่ปรับตัวลงมานั้นยังมีอัพไซต์สูงมาก หากดูจากประมาณการนักวิเคราะห์ที่ราคาพื้นฐานที่เหมาะสมที่ 35 บาท ส่วนหนึ่งเพราะราคา ณ ปัจจุบันยังไม่ได้สะท้อนผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2561 ที่เติบโตและทำกำไรได้โดดเด่นกว่าคู่แข่งในตลาด รวมถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2561 ที่มั่นใจว่าจะเติบโตต่อเนื่องทั้งรายได้และกำไร เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากภาครัฐมีมาตรการตรวจสอบสินค้าอย่างเข้มงวด ทำให้คนส่วนใหญ่หันมาคำนึงและเลือกซื้อสินค้าคุณภาพและผลิตได้มาตรฐานสากล ส่งผลให้ยอดขายกลุ่มสุขภาพและความงามพุ่งกระฉูดทันที
อีกทั้งจากการใช้โมเดล Multi-platform Commerce (MPC) ใช้แพลตฟอร์มสื่อในมือที่มีความแข็งแกร่งอยู่แล้วมาบริหารต่อยอดธุรกิจเชิงพาณิชย์เห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้น และจากการแตกไลน์สู่กลุ่มสินค้าใหม่ Home and Lifestyle ได้แก่ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มเครื่องใช้ในครัวเรือน และผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกาย ขณะที่เริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นธุรกิจสื่อเลยมีเม็ดเงินโฆษณาสะพัดในกลุ่มเรตติ้ง Top5 อย่างช่อง8 ทั้งหมดนี้ทำให้เชื่อมั่นว่ารายได้ทั้งกลุ่มในปี 2561 จะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ เติบโตพุ่งทะยานสูงสุดนับตั้งแต่เปิดบริษัทฯ
ด้านนายโสรัตน์ วณิชวรากิจ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 2 ของ RS เปิดเผยว่า ไม่มีแผนจะจำหน่ายหุ้น RS ออกมาเพิ่มอีกอย่างแน่นอนในช่วงเวลานี้แล้ว ยังเชื่อมั่นการเติบโตแบบก้าวกระโดดของธุรกิจสุขภาพและความงาม และการต่อยอดไปที่ธุรกิจ Multi-platform Commerce (MPC) ซึ่งได้แรงส่งจากการบริหารสื่อทั้งกลุ่มทั้งอย่างเต็มประสิทธิภาพ