นายชัยพล พรพิบูลย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ (ROJNA) เปิดเผยว่า บริษัทอาจประเมินเพื่อปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ปี 61 จากเดิมตั้งเป้าไว้ราว 8 พันล้านบาท โดยคาดว่ารายได้รวมปีนี้จะสูงขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากปัจจุบันมียอดจองพื้นที่เข้ามาค่อนข้างมาก จากกระแสตอบรับที่ดีหลังรัฐบาลประกาศใช้พ.ร.บ.เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทำให้นักลงทุนส่วนมากสนใจในสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ โดยบริษัทอาจปรับราคาขายที่ดินเพิ่ม อีกทั้งลูกค้าบางกลุ่มสนใจและสอบถามเข้ามาเพื่อการย้ายโรงงานเข้ามาในพื้นที่ EEC ด้วย โดยบริษัทยังคงตั้งเป้าหมายยอดขายที่ดินปีนี้ราว 400-500 ไร่ จากที่มีพื้นที่พร้อมขายทุกโครงการรวม 4.5 พันไร่
ขณะเดียวกันบริษัทตั้งงบลงทุนสำหรับการพัฒนาที่ดินในปีนี้ราว 6-7 พันล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนพัฒนานิคมอุตสาหกรรมโรจนะแหลมฉบังราว 2.7 พันล้านบาท บนพื้นที่ราว 843.41 ไร่ และเตรียมพัฒนาโครงการใหม่ในพื้นที่ชลบุรี-หนองใหญ่ ราว 2 พันไร่ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ EEC คาดว่าจะใช้งบลงทุนราว 3 พันล้านบาท รองรับกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิกส์อัจฉริยะ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมเอกสารเพื่อยื่นให้แก่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายปี 61
นอกจากนี้บริษัทมีแผนการขยายสวนอุตสาหกรรมบ่อวิน 2 อีก 700 ไร่, ขยายสวนอุตสาหกรรมโรจนะ อยุธยาเฟส 10 อีก 800 ไร่ จากปัจจุบันมีพื้นที่ราว 1.5 หมื่นไร่ คาดว่าจะเริ่มได้ในปี 62
นายชัยพล กล่าวอีกว่า ปัจจุบันสัดส่วนนักลงทุนในนิคมฯของบริษัท ส่วนมากเป็นนักลงทุนญี่ปุ่นซึ่งมีสัดส่วนกว่า 70% ที่เข้าลงทุนในนิคมฯ ส่วนที่เหลือเป็นนักลงทุนไทย 20% และนักลงทุนจีนอีก 10% โดยปัจจุบันมีนักลงทุนชาวจีนเริ่มทยอยเข้ามามากขึ้น จากการที่รัฐบาลจีนมีการประกาศไม่ให้อุตสาหกรรมบางประเภทดำเนินธุรกิจในจีน
บริษัทยังมุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพสาธารณูปโภค เช่น น้ำ ที่ปัจจุบันในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ อยุธยา มีราคาค่อนข้างต่ำที่ 17 บาทต่อลูกบาศก์เมตร และพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างต่อเนื่อง อาทิ ถนนทางเข้า-ออก ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดปัญหาการจราจรหรือความแออัด