(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งกรอบแคบ แม้ราคาน้ำมันร่วงกดดันตลาด แต่แรงขายตปท.ชะลอ-หวังแรงซื้อหุ้นแบงก์ช่วยประคอง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 5, 2018 09:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยเช้านี้น่าจะยังแกว่งตัวในกรอบแคบ หลังราคาน้ำมันดิบปรับลดลงแรงเมื่อคืนนี้ยังเป็นปัจจัยกดดันที่ตลาด

อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยหนุนจากทิศทางของต่างชาติที่เริ่มเห็นแรงขายเบาบางลง หลังส่วนต่างผลตอบแทน Bond Yield 10 ปีของสหรัฐฯกับไทยแคบลง ขณะที่สัดส่วนการถือครองหุ้นของต่างชาติในปัจจุบันมีเพียง 23.2% ประกอบกับการปรับฐานของตลาดหุ้นไทยช่วงที่ผ่านมาจนทำให้มี P/E ลดลงมาอยู่ที่ 15.6 เท่าทำให้ตลาดมีความน่าสนใจมากขึ้น รวมถึงยังคาดหวังแรงซื้อจะกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มแบงก์ จากแนวโน้มทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้น

ขณะที่นักลงทุนยังรอติดตามปัจจัยจากต่างประเทศ โดยเฉพาะการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า รวมถึงนโยบายการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ด้วย

พร้อมให้แนวรับบริเวณ 1,710 จุด และแนวต้านที่ 1,730 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (4 มิ.ย.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,813.69 จุด เพิ่มขึ้น 178.48 จุด (+0.72%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,746.87 จุด เพิ่มขึ้น 12.25 จุด (+0.45%),ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,606.46 จุด เพิ่มขึ้น 52.13 จุด (+0.69%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 76.23 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 3.18 จุด , ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 11.49 จุด , ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 20.53 จุด , ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 2.63 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 12.30 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.98 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 14.94 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (4 มิ.ย.61) 1,721.29 จุด เพิ่มขึ้น 1.47 จุด (+0.09%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 109.20 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (4 มิ.ย.61) ปิดที่ 64.75 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.06 ดอลลาร์ หรือ 1.6%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (4 มิ.ย.61) ที่ 5.92 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.99 อ่อนค่าจากวานนี้เล็กน้อย ตลาดรอปัจจัยใหม่หนุนทิศทาง มองกรอบวันนี้ 31.95-32.05
  • "ภากร" กรรมการและผู้จัดการตลท. มองแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่ขายออกมาอย่างต่อเนื่องในตลาดหุ้นไทยเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค แต่ตลาดหุ้นไทยยังคงมีความแข็งแกร่ง เนื่องจากมีนักลงทุน ทั้งสถาบัน บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ นักลงทุนทั่วไป กระจายการลงทุนไม่ได้พึ่งพาเงินลงทุนต่างชาติกลุ่มเดียว อีกทั้งมั่นใจปัจจัยภายในเข้มแข็ง เศรษฐกิจแกร่ง หนุน บริษัทจดทะเบียนกำไรโต แม้สหรัฐจะปรับขึ้นดอกเบี้ยกดดันก็ตาม
  • ไทย-ญี่ปุ่น-เมียนมา เตรียมขับเคลื่อนพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายรอบใหม่หลัง ไจก้าปรับแผนแม่บท ถอนอุตสาหกรรมหนัก "เหล็ก ปิโตรเคมี" มุ่งอุตสาหกรรมเบา ที่ส่งเสริมใช้แรงงาน เช่น ผลิตชิ้นส่วน พร้อมเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานก่อน ปลายมิ.ย.ถกร่วม 3 ฝ่าย รับทราบแผน
  • ปลัดกระทรวงการคลัง ได้มอบนโยบายให้รัฐวิสาหกิจในการจัดทำแผนวิสาหกิจ 56 แห่ง ระยะเวลา 5 ปี ให้สอดคล้องกับแผนการปฏิรูปประเทศ 20 ปี ทั้ง 11 ด้านของรัฐบาลที่กำลังดำเนินการอยู่ นอกจากนี้ยังต้องให้เป็นไปทิศทางเดียวกันกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 12 ของสภาพัฒน์ ขณะที่ผลการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมของรัฐวิสาหกิจตั้งแต่เดือน ต.ค.2560-เม.ย. 2561 มี 1.25 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 121% ของแผนการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม โดยรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินการตามปีงบประมาณเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมจำนวน 5.35 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 95% ของแผนการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม
  • ผู้อำนวยการสศค. เปิดเผยว่า เศรษฐกิจครึ่งปีหลัง 2561 ยังสดใสจากปัจจัยที่เป็นบวกทั้งการเร่งทุนภาครัฐ และการลงทุนภาคเอกชนขยายตัว โดยเฉพาะการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ตามแนวรถไฟฟ้าซึ่งมีผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างมาก
  • รัฐบาลเคาะรูปแบบลงทุนเมกะโปรเจกต์ "อีอีซี" เปิดกว้างต่างชาติถือหุ้น 75% พร้อมขีดเส้นประมูลแล้วเสร็จ 8 โครงการ ก่อนเลือกตั้งต้นปีหน้า ส่วนประมูล "ท่าเรือแหลมฉบัง" เฟส 3 เอกชนไทย-เทศรุมจีบ ด้านกพอ.รับทราบความคืบหน้าโครงการเมืองการบินภาคตะวันออกมูลค่า 2 แสนล้านบาท ไปสู่การเป็น "มหานครการบินภาคตะวันออก" ภายใน 10 ปี โดยจะออกเงื่อนไขการประมูล (ทีโออาร์) เดือน ต.ค.61 หลังจากที่ประกาศเชิญชวนการร่วมทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน ไปแล้วเมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ต้งเป้าทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูง และสนามบินเสร็จพร้อมกันปี 66
  • คปภ. เห็นชอบให้มีการปรับปรุงร่างประกาศ คปภ.กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการออก การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยฯ เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการกำกับพฤติกรรมทางตลาด ของทั้งบริษัทประกันภัย และคนกลางประกันภัย อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์สามารถขายประกันภัย ผ่านทางไปรษณีย์ และทางโทรศัพท์ได้ด้วย ซึ่งเพิ่มเติมจากเดิมที่ธนาคารสามารถขายผ่านสาขาธนาคาร และช่องทางออนไลน์ได้เท่านั้น
  • รายงานข่าวจากธปท. เปิดเผยว่า จากการสำรวจความเห็นนักธุรกิจพบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นด้านต้นทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า คาดว่าจะปรับลดลงตามแนวโน้มราคาพลังงานที่สูงขึ้น แต่การส่งผ่านต้นทุนดังกล่าวไปยังผู้บริโภคน่าจะเป็นไปอย่างช้าๆ เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังกังวลว่ากำลังซื้อในประเทศยังขยายตัวไม่เข้มแข็ง
  • วันนี้ (5 มิ.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญจะเปิดคำวินิจฉัย คำสั่ง คสช.53/2560 ซึ่งเป็นคำวินิจฉัยที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งฉบับสุดท้าย

*หุ้นเด่นวันนี้

  • EPG (ฟินันเซีย ไซรัส) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 12 บาท หลังมองทุกธุรกิจผ่าน Bottom และกำลังฟื้นตัว โดยเฉพาะ EPP ที่ดูชะลอมากสุดในปีก่อนจะดีขึ้นตามการบริโภคในประเทศ ขณะที่ Aeroflex (ฉนวนยาง) จะได้แรงหนุนจากการขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐาน และ Aeroklas (ชิ้นส่วนรถยนต์) จะมีการออกสินค้าใหม่เพิ่มเติม พร้อมคาดกำไรปี 61/62 (เม.ย. 61-มี.ค.62) ที่ 1,251 ล้านบาท +26% Y-Y และคาด +17% Y-Y ทำจุดสูงสุดใหม่ในปี 62/63 ที่ 1,460 ล้านบาท ขณะที่ยอด Short sales กลับเข้าสู่ระดับปกติ และ NVDR เร่งซื้อมากขึ้น ถือเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวก
  • RS (เคทีบีฯ) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 35 บาท หลังมองแผนครึ่งหลังของปีนี้ที่ RS จะเน้นโมเดลธุรกิจ MPC เปิดตัว LINE@ COOL Anything "เปลี่ยนผู้ฟังเป็นผู้ซื้อ" ทำให้มีมุมมองเชิงบวก โดยเชื่อว่าการขยาย platform จะส่งผลให้ RS สามารถเพิ่มยอดขาย Multi-Platform Commerce ได้มากขึ้น อีกทั้ง RS ยังมีแผนทำ Private brand ซึ่งมี Gross profit margin มากกว่าสินค้าของ partner คาดว่าจะช่วยให้ Gross profit margin ของ RS ขยายตัว ทำให้เชื่อมั่นว่า RS จะสามารถ Deliver earnings growth ได้ตามเป้าที่คาด โดยคาดว่ารายได้จาก MPC ปีนี้จะอยู่ที่ 3,263 ล้านบาท เพิ่ม 135%YoY และกำไรสุทธิอยู่ที่ 827 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 148% YoY มองว่าราคาที่ปรับตัวลงมาอยู่ต่ำกว่าราคาเป้าหมายกรณี Worst case แล้ว ส่งผลให้ Downside มีจำกัด
  • MBK (เคทีบีฯ) แนะ"ซื้อ"เป้าหมาย 27 บาท โดยการเข้าซื้อหุ้นบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เพิ่มจาก ณ 31 มี.ค.61 ที่ 31% เป็น 47.46% ทำให้การรับรู้กำไรจากบริษัทนี้ เพิ่มจาก 10% เป็น 18% ของกำไร MBK ขณะที่ธุรกิจ Core Business ของ MBK มีลักษณะเป็น Recurring Income โดยธุรกิจศูนย์การค้าเป็นธุรกิจที่มีสัดส่วนรายได้มากที่สุด ประมาณ 42% ซึ่งธุรกิจดังกล่าวเป็นธุรกิจที่มีรายได้สม่ำเสมอ ส่วนปลายปีนี้ โครงการใหญ่ที่ MBK ถือหุ้นอยู่ 15% (ณ 31 มี.ค.) คือ Icon Siam มีแผนจะเริ่มเปิดดำเนินการ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ