นายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บมจ. ฐิติกร (TK) เปิดเผยถึงกรณีมีกระแสข่าวลือว่าบริษัทฯเตรียมเข้าซื้อ บริษัทเงินติดล้อว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และทางบริษัทฯไม่เคยมีการเข้าไปพบหรือพูดคุยเลย
อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังคงมองหาการเข้าซื้อกิจการอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ โดยบริษัทฯจะพิจารณาถึงความเหมาะสม และสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/61 คาดว่าจะลดลงจากไตรมาส 1/61 เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของบริษัท ประกอบกับ อยู่ในช่วงเปิดเทอม และ มีวันหยุดที่ยาวนาน ตลอดจนสินค้าราคาเกษตรยังตกต่ำส่งผลให้รายได้เกษตรกรลดลง ซึ่งส่งผลต่อกำลังซื้อในกลุ่มดังกล่าว
นายประพล กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯยังคงเป้าหมายการเติบโตรายได้ปีนี้ที่ 10% และยังไม่มีการเพิ่มเป้าหมายการเติบโต เนื่องจากยังประสบปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง แม้ว่าการส่งออกและท่องเที่ยวยังเติบโตได้ดี แต่กลุ่มอื่นๆยังคงไม่ได้ฟื้นตัวขึ้นตาม โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรที่เป็นลูกค้าหลักของบริษัทฯ
ส่วนการเปิดสาขาในไตรมาส 2/61 จะเป็นการเปิดสาขาที่ สปป.ลาว 2 สาขา จากที่มีอยู่แล้ว 3 สาขา ในประเทศกัมพูชาปีนี้เปิด 3-4 สาขา จากปัจจุบันมีอยู่ 6 สาขา และ ที่เมียนมา 1 สาขา ซึ่งปัจจุบันทางรัฐบาลเมียนมายังไม่ได้ให้ใบอนุญาตประกอบกิจการ โดยคาดว่าปีนี้จะสามารถเปิดสาขาดังกล่าวได้ ส่วนที่ไทยปีนี้มีแผนเปิด 3-4 สาขา แต่หากกำลังซื้อยังไม่ฟื้นก็มีโอกาสที่จะล้มแผนการเปิดสาขาในไทยออกไป โดยปัจจุบันมี 91 สาขา
ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 4.8% ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้เดิม 4.5% โดยยังไม่มีแนวโน้มที่จะลดลง ถึงแม้ว่าพืชผลทางการเกษตรจะมีผลผลิตที่ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามราคายังคงไม่ฟื้นตัวขึ้นตาม ประกอบกับกำลังซื้อภายในประเทศยังไม่มากด้วย