นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) เปิดเผยว่า DTAC เปิดให้บริการคลื่น 2300 เมกะเฮิร์ตซ์ (MHz) ภายใต้ "ดีแทคเทอร์โบ" หรือ dtac TURBO ซึ่งคลื่นความถี่นี้มีขนาดกว้างมากถึง 60 MHz เหมาะกับการรองรับปริมาณการใช้งานดาต้าที่มากของคนไทยในปัจจุบัน เพื่อรองรับความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และพฤติกรรมการในการรับข้อมูลปริมาณมาก ซึ่งดีแทคเทอร์โบจะมายกระดับโครงข่ายดิจิทัล อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเร่งเปิดให้บริการทั่วประเทศ และจะเป็นอีกบทหนึ่งที่น่าจับตาการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในประเทศไทยอย่างสมบูรณ์แบบ โดยเริ่มเปิดให้บริการแล้วในพื้นที่ที่มีการใช้งานดาต้าอินเทอร์เน็ตหนาแน่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต แล้วจะขยายพื้นที่ให้ครบทั่วประเทศต่อไป
โดยบริษัทมีแผนจะขยายพื้นที่ให้บริการอย่างต่อเนื่องตามพื้นที่ประชากรในแต่ละจังหวัดไปจนถึงระดับตำบล โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าขยายการให้บริการในปี 61 จะครอบคลุม 37 จังหวัด ด้วยโครงข่ายที่มากถึง 4,000 เสา
"ดีแทคเทอร์โบ เป็นคลื่นใหม่ที่จะมาปลดล็อกปัญหาการใช้งานดาต้าและอินเทอร์เน็ตบนมือถือที่ไม่เพียงพอด้วยเทคโนโลยี 4G TDD ที่มีประสิทธิภาพสูง"
ปัจจุบัน DTAC มีคลื่นความถี่ 2100 MHz และ 2300 MHz ซึ่งเป็นคลื่นความถี่สูงที่มีแบนด์วิธมากพอในการสร้างศักยภาพที่แข็งแกร่งของ DTAC ในการให้บริการดาต้าและอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ด้วยเทคโนโลยีล้ำหน้าของโลก 4G TDD เป็นครั้งแรกของโลก เพื่อสนองตอบความต้องการของลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยม
"บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าการดำเนินงานตามแผนการขยายการให้บริการ จะเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานดาต้าอินเตอร์เน็ตของลูกค้าโดยรวมได้เป็นอย่างดี ซึ่งบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายจะมีผู้ใช้บริการ dtac TURBO ในปีนี้ประมาณ 70% ของฐานลูกค้าผู้ใช้บริการ 4G ที่รองรับการใช้งานคลื่น 2300 MHz"ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DTAC กล่าว
ด้านนายปัญญา เวชบรรยงรัตน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานพาณิชย์ DTAC กล่าวว่า บริษัทฯ ได้วางงบลงทุนด้านการตลาดในปีนี้ไว้ที่ 500 ล้านบาท ในการจัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับการขยายโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ดีแทคได้จัดกิจกรรมทางการตลาดที่เน้น ความใจดี ให้มากกว่า รวมถึงสิทธิพิเศษจากดีแทค รีวอร์ด ที่มีเยอะทุกภาคทั่วไทย ขณะเดียวกันการมีคลื่นใหม่ ดีแทคเทอร์โบ ที่ล้ำหน้า จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและเสริมประสบการณ์ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ลื่นขึ้น เนื่องจากกระแสความนิยมบริโภคเนื้อหาแบบสตรีมมิ่งออนไลน์ ได้ช่วยให้จำนวนผู้ใช้บริการ 4G เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 8.5 ล้านเลขหมาย หรือคิดเป็น 39% ของฐานลูกค้ารวม) และเพิ่มจำนวนอุปกรณ์ที่รองรับเทคโนโลยี 4G ในโครงข่ายดีแทคขึ้นมาที่ 11.9 ล้านเลขหมาย หรือคิดเป็น 55% ของฐานลูกค้ารวม โดยมีสัดส่วนผู้ใช้อุปกรณ์สมาร์ทโฟนในโครงข่ายที่ 75%
นอกจากนี้จะมีการจัดแคมเปญเปลี่ยนเครื่องเก่า 2G เป็นเครื่องใหม่ที่รองรับเทคโนโลยี 3G และ 4G เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในการใช้งานอินเตอร์เน็ต และคาดว่าคลื่น ดีแทคเทอร์โบ จะกระตุ้นการใช้งานอินเตอร์เน็ตบนมือถือ ให้เติบโตได้รวดเร็วขึ้น
"ในครึ่งปีหลังนี้เราจะเน้นการขายความเร็วให้กับลูกค้า เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้น โดยเราจะมีแพ็กเกจสำหรับลูกค้ารายเดือน คือ Super Non-Stop เน็ตแรงล้ำ เต็มสปีด กับเน็ตที่ให้มากกว่า พร้อมใช้ไม่หมดให้ทบไปเดือนหน้าได้ และแพ็กเกจสำหรับลูกค้าเติมเงิน คือ Super Max-Net ให้เน็ตเยอะสุด แรงทะลุจอ บนคลื่นใหม่"
นายประเทศ ตันกุรานันท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มเทคโนโลยี DTAC กล่าวว่า สำหรับการเข้าประมูลคลื่น 1800 MHz ที่กสทช. จะจัดขึ้นในเดือนส.ค.นี้ว่า DTAC อยู่ระหว่างการศึกษาถึงความคุ้มค่าในการลงทุนโดยจะเสนอผลการศึกษาให้คณะกรรมการบริหารของ DTAC พิจารณาและ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์หน้า
"ขอยืนยันว่า DTAC เตรียมความพร้อมในการให้บริการ การมีคลื่นความถี่หลายๆย่านเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการให้บริการในอนาคต จากความร่วมมือกับทีโอทีทำให้ดีแทคมีคลื่นในการให้บริการเพิ่มอีก 60 เมกะเฮิรตซ์"