LHK ตั้งเป้ารายได้ปี 61/62 โตไม่ต่ำกว่า 5% ตามอุตสาหกรรมยานยนต์ขยายตัว , ศึกษาขยายกำลังผลิตคาดชัดเจนใน 3-6 เดือน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 6, 2018 13:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประสาน อัครพงศ์พิศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.โลหะกิจ เม็ททอล (LHK) บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปี 61/62 (เม.ย.61-มี.ค.62) เติบโตไม่ต่ำกว่า 5% จากระดับ 3.4 พันล้านบาทในปี 60/61 ตามอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ขยายตัว โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ประมาณการยอดผลิตรถยนต์ปีนี้ที่ 2 ล้านคัน ซึ่งเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายภายในประเทศ 0.9 ล้านคัน และเป็นการผลิตเพื่อส่งออก 1.1 ล้านคัน หลังตลาดรถยนต์มีแนวโน้มเป็นบวกจากการสิ้นสุดการถือครองในโครงการคืนภาษีรถยนต์คันแรก และการลงทุนใหม่ของค่ายรถยนต์ใหม่ ๆ รวมไปถึงภาวะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว ตลอดจนการส่งเสริมของภาครัฐ

ขณะที่ภาพรวมของอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ยังคงทรงตัวต่อเนื่องจากปีก่อน แต่อย่างไรก็ตามยังมีความต้องการเครื่องปรับอากาศจากตลาดต่างประเทศมากขึ้น และผู้ผลิตได้ขยายกำลังการผลิตเพื่อส่งออกไปยังอินเดีย ตะวันออกกลาง และเวียดนาม ส่วนอุตสาหกรรมก่อสร้างก็ยังคงทรงตัว แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าจะได้รับแรงขับเคลื่อนหลักจากโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และโครงการรถไฟฟ้าทางคู่ นอกจากนี้โครงการชลประทานและโครงข่ายคมนาคมต่าง ๆ ในอนาคตจะเป็นแรงขับเคลื่อนในระยะต่อไป

สำหรับภาพรวมผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1 ของปี 61/62 (เม.ย.-มิ.ย.) บริษัทฯ คาดว่าจะเติบโตเมื่อเทียบกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยจะได้รับผลดีหลักมาจากอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ยังคงเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

"ปีนี้จะเป็นปีที่ดีของประเทศไทย และเป็นปีที่ดีปีหนึ่งของ LHK แต่บริษัทฯก็ไม่ได้ประมาทกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งเราก็ได้เน้นการบริหารจัดการต้นทุนในทุก ๆ ด้านของบริษัทฯ และพื้นฐานการเงินที่เข้มแข็ง โดยบริษัทฯมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ในระดับต่ำ และมีจะมีเงินสดในมือหลังจ่ายเงินปันผลแล้วราว 300 ล้านบาท"นายประสาน กล่าว

นายประสาน กล่าวว่า บริษัทตั้งงบลงทุนงวดปีนี้ราว 50 ล้านบาท สำหรับการปรับปรุงเครื่องจักรตามปกติ อย่างไรก็ตามบริษัทฯอยู่ระหว่างศึกษาขยายกำลังการผลิตในกลุ่มยานยนต์ เนื่องจากปัจจุบันบริษัทฯใช้อัตรากำลังการผลิตถึง 87.1% โดยบริษัทฯคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายใน 3-6 เดือน ซึ่งบริษัทฯค่อนข้างมีความพร้อมในการลงทุน เนื่องจากมีเงินสดในหลังจ่ายเงินปันผลแล้วราว 300 ล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) 0.40 เท่า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ