นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. บัวหลวง เปิดเผยว่า กองทุนบัวหลวงจะเดินหน้าขยายฐานลูกค้าในต่างจังหวัดให้มากขึ้น เพราะเป็นตลาดสำคัญที่มีศักยภาพในด้านการลงทุน แต่ปัจจุบันอาจยังเข้าถึงข้อมูลความรู้ในทางการลงทุนไม่มากเท่ากับลูกค้าในกรุงเทพ จึงทำให้คนส่วนใหญ่ยังคงเน้นการฝากเงินไว้กับธนาคาร ซึ่งในระยะยาวนั้น การฝากเงินเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตในวัยเกษียณแล้ว เพราะผลตอบแทนที่ได้รับอาจไม่ทันกับอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวมากขึ้นๆ
กองทุนบัวหลวงเล็งเห็นความสำคัญของการมีส่วนช่วยให้คนไทยเข้าถึงการลงทุนได้ง่ายขึ้น ล่าสุดจัดตั้ง BF Knowledge Center หรือศูนย์ความรู้กองทุนบัวหลวง เพื่อทำหน้าที่สื่อสารแนวคิด ปรัชญาและกระบวนการลงทุน ถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวางแผนการลงทุน ตลอดจนจัดสัมมนา และกิจกรรม Investment Workshop โดยเน้นให้คำแนะนำด้านการลงทุนในแต่ละช่วงวัย ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ ล้วนมีส่วนสำคัญที่จะสานต่อพันธกิจของกองทุนบัวหลวงที่จะ "ทำให้ครอบครัวไทยมีความมั่นคงทางการเงิน" ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
"เราเล็งเห็นความสำคัญของการมีส่วนช่วยทำให้คนไทยเข้าถึงการลงทุนให้มากขึ้น โดยในปีนี้ เราวางเป้าหมายที่จะรุกตลาดต่างจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้เข้าถึงทั้งหัวเมืองหลักและหัวเมืองรอง โดยส่งทีมงาน BF Knowledge Center เข้าไปเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจให้บุคคลทั่วไปในแต่ละพื้นที่ พร้อมจัดอบรมเชิงปฏิบัติการวางแผนทางการเงินให้เหมาะกับแต่ละช่วงวัย เพื่อให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์และการลงทุนให้กับลูกค้า" นายพีรพงศ์ กล่าว
นอกจากนี้ กองทุนบัวหลวงยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาความรู้ด้านผลิตภัณฑ์และบริการให้กับพนักงานสาขาของธนาคารกรุงเทพอีกด้วย โดยทีมงาน BBL Business Distribution จะทำหน้าที่ในการลงพื้นที่เพื่อเสริมสร้างทักษะให้กับพนักงาน และเมื่อพนักงานสาขาเข้าใจในรายละเอียด และเงื่อนไขของกองทุนรวมอย่างถ่องแท้แล้ว ก็จะทำให้การแนะนำการลงทุนสามารถส่งต่อไปถึงลูกค้าได้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ กิจกรรมที่ทีมงาน BF Knowledge Center จะจัดขึ้นหลังจากนี้ ได้แก่
งานเปิดโลกลงทุนกับกองทุนบัวหลวง ในวันที่ 30 มิ.ย. นี้ ที่ศูนย์การเรียนรู้การลงทุน (SET IC) ห้องประชุม 1504 ชั้น 5 อาคาร 1 คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น จ.ขอนแก่น เวลา 8.30-16.00 น.
งานเปิดโลกลงทุนกับกองทุนบัวหลวง ในวันที่ 7 ก.ค. นี้ ที่ห้องประชุม Main Conference ชั้น 1 อาคารศูนย์บริการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก เวลา 8.30-16.00 น.
เดือน ส.ค. จะจัดกิจกรรมที่ จ.สุราษฎร์ธานี
อย่างไรก็ดี ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ทั้ง 2 หน่วยงานให้ความรู้ของกองทุนบัวหลวง เดินสายจัดกิจกรรมไปแล้วครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ นับตั้งแต่ เชียงใหม่ นครราชสีมา อุดรธานี ชัยภูมิ ชุมพร ราชบุรี และสกลนคร
ทั้งนี้ จากข้อมูลของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ระบุตัวเลขจำนวนบัญชีกองทุนรวมในปี 2560 อยู่ประมาณ 5.78 ล้านบัญชี คิดเป็น 6.10% ของจำนวนบัญชีเงินฝากที่มีกว่า 94.84 ล้านบัญชี ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ยังมีคนไทยอีกจำนวนมากที่ไม่ได้เข้ามาใช้ช่องทางการลงทุนผ่านกองทุนรวม เมื่อพิจารณาสัดส่วนการออมและการลงทุนในภาคครัวเรือน
"หลังจากเดินสายให้ความรู้ เราหวังว่า ประชาชนในพื้นที่เหล่านั้นจะมีความเข้าใจเรื่องการลงทุนมากขึ้น ช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยมีทักษะทางการเงินดีขึ้น เมื่อคนไทยมีความรู้ทางการเงินรอบด้านมากขึ้น ก็จะส่งผลให้คนไทยเข้าถึงการลงทุนผ่านกองทุนรวมมากขึ้นตามไปด้วย" นายพีรพงศ์ กล่าวและเสริมว่า
นอกเหนือจากการให้ความสำคัญเรื่องการคัดสรรผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ลูกค้าผู้ลงทุนทุกกลุ่มแล้ว กองทุนบัวหลวงก็ยังให้ความสำคัญกับเรื่องการให้ความรู้กับประชาชน ให้เข้าใจเรื่องการลงทุนมากขึ้น รู้จักผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนที่หลากหลาย พร้อมทั้งสามารถวางแผนทางการเงินได้เหมาะกับตัวเอง ขณะเดียวกันก็พยายามจะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนรวมในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและน่าสนใจมากขึ้น
กองทุนบัวหลวงยังนำเสนอบทความให้ความรู้ด้านการวางแผนทางการเงินผ่านช่องทางออนไลน์ ได้แก่ BF Mobile Application และ www.bblam.co.th รวมถึงสื่อหลักทั่วไป เช่น หนังสือพิมพ์ วิทยุ เป็นต้น เพื่อกระจายความรู้ทางการเงินให้ทั่วถึงยิ่งขึ้นด้วย