(เพิ่มเติม) BM เล็งปรับเพิ่มเป้ารายได้ปีนี้เป็นโต 20% หลังรับออร์เดอร์เสาสื่อสารเพิ่มอีก 400 ต้น ,ร่วมทุนพันธมิตรตั้งรง.ในเมียนมา

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 7, 2018 12:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรวัต อมรธาตรี กรรมการผู้จัดการ บมจ.บางกอกชีทเม็ททัล (BM) เปิดเผยว่า บริษัทมีแนวโน้มจะปรับเป้ารายได้ในปี 61 เป็นเติบโตมากกว่า 20% จากเดิมที่คาดเติบโต 10-20% จากระดับ 846.80 ล้านบาทในปีที่แล้ว หลังบริษัทได้รับงานเสาสื่อสารโทรคมนาคมเพิ่มอีก 400 ต้น จากเดิมที่มีออร์เดอร์เข้ามาประมาณ 500 ต้น ส่งผลให้ได้รับงานเสาสื่อสารโทรคมนาคมเพิ่มขึ้นเป็น 900 ต้น ดังนั้น บริษัทจึงมีการเร่งผลิตให้ทันกับความต้องการของลูกค้า โดยคาดว่าจะมีกำลังการผลิตประมาณ 150 ต้น/เดือน ซึ่งตั้งแต่ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาได้เริ่มทยอยส่งมอบบางส่วนแล้ว และคาดจะมีออร์เดอร์ใหม่เพิ่มเข้าขึ้นมาอีกด้วย

ขณะที่มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 300-400 ล้านบาท ซึ่งเริ่มทยอยรับรู้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนถึงต้นปีนี้ และบริษัทอยู่ระหว่างการยื่นประมูลโครงการของภาครัฐในโครงการพื้นฐาน ซึ่งมีมูลค่าโครงการกว่า 1,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้า รถไฟฟ้าทางคู่ สนามบิน เป็นต้น โดยเฉพาะในส่วนของรางและท่อร้อยสายไฟ เพื่อช่วยสนับสนุนให้กับงานรถไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น

"บริษัทมีแนวโน้มจะปรับเป้าการเติบโตของบริษัทเป็นเติบโตมากกว่า 20% จากเดิมที่คาดในปีนี้ประมาณ 10-20% หรือคิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 1,000 ล้านบาท เพราะมีออร์เดอร์เพิ่มขึ้นในทุกหมวดธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นรางและท่อร้อยสายไฟฟ้า ตู้สื่อสาร ตู้ไฟฟ้าและตู้โลหะ แผงควบคุมไฟฟ้าและโคมไฟฟ้า โลหะเชื่อมประกอบ เครื่องมือ เครื่องจักรกล และอุปกรณ์ และชิ้นส่วนโลหะ"นายธีรวัต กล่าว

นายธีรวัต กล่าวว่า การที่บริษัทได้รับงานเสาสื่อสารโทรคมนาคมเพิ่มขึ้น รวมถึงมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของการถือหุ้นจำนวน 20% ในบริษัท เอ็ม อี ซี ที จำกัด หรือ MECT ส่งผลให้เบื้องต้นบริษัทประเมินว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/61 จะเติบโตอย่างโดดเด่น ขณะเดียวกันในปีนี้คาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากต้นทุนราคาเหล็ก หลังจากในช่วงที่ผ่านมาราคาเหล็กปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากแล้วจนกระทบต่อมาร์จิ้นของบริษัท แต่ปีนี้คาดว่าราคาเหล็กจะมีการเคลื่อนไหวในทิศทางที่แกว่งตัวไม่ได้ปรับขึ้นมากเหมือนก่อนหน้านี้

สำหรับแผนการขยายธุรกิจในระยะต่อไปนั้น บริษัทมีแผนตั้งโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กในเมียนมา โดยอยู่ระหว่างเจรจารายละเอียดร่วมลงทุนกับพันธมิตรท้องถิ่น 2-3 ราย และพันธมิตรในไทย โดยบริษัทตั้งงบลงทุนไว้ราว 100-150 ล้านบาท เบื้องต้นจะเป็นค่าเช่าซื้อที่ดินประมาณ 10 ไร่ มูลค่าราว 40-50 ล้านบาท และคาดว่าจะถือหุ้นในสัดส่วน 50% ทั้งนี้ คาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาความร่วมมือ (MOU) ภายในเดือน ก.ค.61

ส่วนการร่วมทุนกับ NITTO KOGYO นั้นมีเป้าหมายเน้นการขายให้ลูกค้าในประเทศไทยเป็นหลัก ปัจจุบันดำเนินธุรกิจในลักษณะ Trading คาดว่าจะมียอดขายในปีนี้ 10 ล้านบาท อีกทั้งมีแผนจะตั้งโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ คาดว่าจะมีการลงทุนเครื่องจักรราว 40 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถก่อสร้างโรงงานได้ภายในปี 62 อีกทั้งบริษัทมองโอกาสขยายตลาดสู่กลุ่มประเทศอาเซียนเพื่อสร้างการเติบโต ล่าสุดมีการเสนอราคาขายให้ฟิลิปปินส์แล้ว

นายธีรวัต กล่าวอีกว่า ปีนี้บริษัทมีแผนออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) เป็นช่องทางแรก ๆ ในการระดมทุน เพื่อรองรับการขยายธุรกิจและลงทุนในโครงการใหม่ ๆ ซึ่งจะมีความชัดเจนหลังเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทพิจารณา โดยคาดว่าจะมีการออกวอร์แรนต์เพื่อให้ผู้ถือหุ้นเดิมภายในครึ่งหลังปีนี้ ขณะที่บริษัทมีกระแสเงินสดในมือเพียงพอ และมีความสามารถในการกู้เงินจากสถาบันได้อีกมาก โดยปัจจุบันอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ระดับ 0.36 เท่า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ