นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในไตรมาส 2/61 ปรับตัวอย่างโดดเด่นมากขึ้น ซึ่งสอดรับกับราคาถ่านหินในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสามารถยืนเหนือระดับ 100 ดอลลาร์/ตัน และความต้องการใช้ถ่านหินทั้งในประเทศ และต่างประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศเวียดนาม โดยในเดือน เม.ย.มีการนำเข้าถ่านหินจำนวน 2.25 ล้านตัน สูงสุดในรอบ 8 เดือน
สำหรับในช่วงไตรมาส 2-3 มียอดขายถ่านหินที่จะทยอยส่งมอบในประเทศแล้วจำนวน 8 แสนตัน จากความต้องการใช้ของกลุ่มลูกค้าในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนต่างประเทศ โดยเฉพาะเวียดนาม คาดว่าปีนี้สามารถทำยอดขายได้ประมาณ 3 แสนตัน และประเทศกัมพูชา คาดว่าอีกประมาณ 3 หมื่นตัน
นอกจากนี้ธุรกิจบริหารจัดการขนส่งทางน้ำ และคลังสินค้า โดยเฉพาะการขนส่งทางนำมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากความต้องการใช้เรือโป๊ะเพื่อการขนส่งสินค้า ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนเรือ 12 ลำ แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ ดังนั้นจึงได้บริษัทฯได้เตรียมสั่งต่อใหม่เพิ่มอีก 12 ลำ โดยเรือจะทยอยส่งมอบในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปี 62
"ปัจจุบันเรือโป๊ะของบริษัททั้ง 12 ลำที่ให้บริการขนส่งทางน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ของลูกค้าในการขนส่งถ่านหิน บริษัทจึงเล็งเห็นว่าการสั่งต่อเรือเพิ่มอีก 12 ลำ ส่งผลให้จำนวนกองเรือรวมทั้งหมดอยู่ที่ 24 ลำ เพื่อรองรับการขนส่งได้อย่างเพียงพอ" นายพนมกล่าว
สำหรับภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลังคาดว่ามีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะเป็นเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ บวกกับบริษัทฯมีการปรับกลยุทธ์แบบเชิงรุกโดยการทำการตลาดต่างประเทศ อาทิ เวียดนาม กัมพูชา และในประเทศ โดยเฉพาะลูกค้าอุตสาหกรรมชั้นนำขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น บริษัทจึงมั่นใจว่าปีนี้ผลการดำเนินงานจะเติบโตเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ โดยมียอดขายรวมเติบโตอยู่ที่ 20-25% แบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 20% และในประเทศจะอยู่ที่ 80% โดยตั้งเป้ายอดขายถ่านหินทั้งปีที่ระดับ 3 ล้านตัน ขณะที่ธุรกิจการให้บริการโลจิสติกส์ และคลังสินค้า บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้เป็น 5% จากรายได้รวม เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 2.5% ของรายได้รวม