บมจ.การบินไทย (THAI) และบริษัท โรลส์ รอยซ์ ร่วมลงนามความร่วมมือสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ซ่อมเครื่องยนต์โรลส์ รอยซ์ ของการบินไทย เพื่อขยาย TRENT CareNetwork โดยใช้โรงซ่อมบำรุงเครื่องยนต์อากาศยานของการบินไทยที่ท่าอากาศยานดอนเมือง
โดยการบินไทยจะเป็นศูนย์ซ่อมเครื่องยนต์ (Authorized Maintenance Center) ของบริษัท โรลส์ รอยซ์ สำหรับเครื่องยนต์รุ่น TRENT ซึ่งจะส่งผลให้การบินไทยสามารถรองรับการขยายฝูงบินของเครื่องบินที่ใช้เครื่องยนต์โรลส์ รอยซ์ ได้เพิ่มมากขึ้นภายใต้ Roll-Royce service network ซึ่งปัจจุบันการบินไทยมีเครื่องบินลำตัวกว้างที่อยู่ในฝูงบินประมาณ 80 ลำ ซึ่งมีเครื่องบินใช้เครื่องยนต์โรลส์-รอยซ์มากกว่า 50 ลำ
นางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ของ THAI กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือกันในวันนี้ เพื่อพัฒนาโรงซ่อมเครื่องยนต์อากาศยานที่บริษัทมีอยู่ ให้สามารถซ่อมเครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่สายการบินส่วนใหญ่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน ซึ่งบริษัทมีขีดความสามารถที่จะขยายกำลังการผลิตในการซ่อมเครื่องยนต์ Rolls Royce TRENT 700 และ TRENT 1000 ที่จะตอบสนองความต้องการของตลาดในภูมิภาค นับเป็นการเพิ่มการใช้ประโยชน์โรงซ่อมอย่างคุ้มค่า รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนาความสามารถทางธุรกิจร่วมกัน สามารถเพิ่มรายได้จากลูกค้าภายนอกประเทศ สร้างผลตอบแทนและเป็นประโยชน์สูงสุดแก่บริษัท
การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่สนองต่อนโยบายของรัฐและเป็นกลไก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต หรือ New Growth Engine ซึ่งจะช่วยสนับสนุนโครงการพัฒนาศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานของแผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกให้มีความพร้อมมากยิ่งขึ้น รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรภายในประเทศในด้านการซ่อมเครื่องยนต์อากาศยานที่มีความซับซ้อนและต้องใช้ความรู้ รวมทั้งเทคโนโลยีขั้นสูง สร้างขีดความสามารถของประเทศทางด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรมการบินให้เป็นหนึ่งในภูมิภาค
นายสุรชัย เพียรเจริญศักดิ์. รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายช่าง THAI กล่าวว่า หลังจากลงนามกันในวันนี้ THAI คาดว่าจะลงทุนประมาณ 1 พันล้านบาทในช่วงปี 61-63 เยื้องต้นจะลงทุนประมาณ 500 ล้านบาทในเครื่องมือและอุปกรณ์ซ่อมเครื่องยนต์ Rolls Royce TRENT 1000.รองรับเครื่องบินโบอิ้ง 787 ก่อน ระยะต่อไปจะลงทุนเครื่องมือและอุปกรณ์ในการซ่อมเครื่องยนต์ Rolls Royce TRENT 700 รองรับแอร์บัสเอ 330 อีกประมาณ 500 ล้านบาท รวมทั้งเพิ่มบุคคลกรประมาณ 50-60 คน จากปัจจุบันมีพนักงานฝ่ายช่าง 3,500 คน
นายสุรชัย คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากศูนย์ซ่อมดังกล่าวอย่างเร็วในไตรมาส 4/61 โดยคาดว่ารายได้ในปี 62 จะอยู่ที่ราว 1 พันล้านบาท และในปี 63 คาดจะมีรายได้ราว 4-5 พันล้านบาท/ปีในการซ่อมบำรุงอากาศยาน 30 เครื่องยนต์ โดยมีกำลังการซ่อมเต็มที่มี 70-80 เครื่องยนต์ ทั้งนี้ THAI จะได้รับรายได้จากค่าแรงจากการซ่อมบำรุงอากาศยาน และหักค่าใช้จ่ายให้โรลส์ รอยซ์
ส่วนในปี 61 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้จากฝ่ายช่าง จำนวน 3 พันล้านบาท เติบโต 5% จากปีก่อน และปี 62 จะเติบโตชัดเจน คาดรายได้จะเติบโตมากกว่า 10% และในปี 63 คาดรายได้จะกระโดดขึ้นมาเป็นกว่า 7 พันล้านบาท
นายสุรชัย กล่าวว่า แนวโน้มการเติบโตธุรกิจการบินของโลกเติบโตเฉลี่ยปีละ 5% แต่คาดว่าธุรกิจการบินในแถบเอเชียจะเติบโตมากกว่าภาพรวม
นายคริส ชอร์ตั้น President-Civil Aerospace บริษัท โรลส์ รอยซ์ กล่าวว่า บริษัทเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับการบินไทยมายาวนานกว่า 50 ปี การลงนามความร่วมมือสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ซ่อมเครื่องยนต์โรลส์ รอยซ์ของการบินไทยในครั้งนี้ จะเสริมความแข็งแกร่งด้านธุรกิจและช่วยพัฒนาทักษะด้านการซ่อมบำรุงเครื่องยนต์อากาศยาน สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทยที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมการบิน โดยคาดว่าศูนย์ซ่อมเครื่องยนต์ดังกล่าวจะสามารถเปิดใช้งานอย่างเต็มที่ภายในต้นปี 62
ทั้งนี้ การลงนามความร่วมมือนี้ ต่อเนื่องมาจากการร่วมลงนามความร่วมมือระหว่างบริษัท การบินไทยฯและบริษัท โรลส์ รอยซ์ ในโครงการ Trent XWB Engine Development Testing เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยบริษัท โรลส์ รอยซ์ ได้นำเครื่องยนต์ Trent XWB มาทดสอบที่โรงซ่อมเครื่องยนต์อากาศยาน การบินไทย ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง หรือเรียกว่าการทำ Experimental Test ของเครื่องยนต์ Trent XWB ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุด ที่ใช้งานกับเครื่องบินแอร์บัส A350 โดยฝ่ายช่าง การบินไทยได้ทำการทดสอบอย่างต่อเนื่องเพื่อศึกษาสมรรถนะของเครื่องยนต์
นอกจากนี้ บริษัท โรลส์ รอยซ์ ยังมีแผนที่จะขยายโครงการนี้ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาอีกด้วย
ทั้งนี้ องค์การการบินพลเรือน ( IATA ) ได้คาดการณ์ไว้ว่า การเดินทางทางอากาศจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 7% ในปีนี้ ซึ่งมีการขยายตัวสูงกว่าค่าเฉลี่ยใน 20 ปีที่ผ่านมาถึง 1.5% ซึ่งการเจริญเติบโตส่วนใหญ่มาจากการเดินทางในภูมิภาค Asia Pacific โดยตัวเลขของการคาดการณ์ คือ การขยายตัวถึง 9.5% เนื่องจากมีจำนวนของผู้โดยสารที่สูงที่สุดในโลก