นายบุรณิน รัตนสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจหล่อลื่น บมจ.ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า ปตท.พร้อมที่จะสนับสนุนเกิดการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปตามกระแสการการใช้รถยนต์ไฟฟ้ากำลังเป็นที่นิยมไปทั่วโลก โดยเบื้องต้นอาจจะพิจารณาการทำธุรกิจให้เช่ารถยนต์ EV รวมถึงอาจจะให้ศูนย์บริการ FIT Auto รับงานซ่อมบำรุงหากค่ายรถยนต์ไม่ดำเนินการดังกล่าว ซึ่งจะเป็นการช่วยกระตุ้นความต้องการใช้รถยนต์ EV ให้เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
ปัจจุบันมีการใช้รถยนต์ EV ประมาณ 1% ของยอดขายรถยนต์ทั่วโลก แต่ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็น 3-5% หรือ 10% และมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นเร็วและมากกว่านั้น ถ้าราคาแบตเตอรี่ถูกลง ตลอดจนมีการออกมาตรการจูงใจให้เกิดการใช้รถยนต์ EV เช่น ในอังกฤษ ที่นอกเหนือจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีแล้ว การนำรถยนต์ EV วิ่งบนโทลเวย์ก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ด้วยเช่นกัน
"เราก็คุยกับสถานีวิจัยทางเทคโนโลยี ถ้าค่ายรถยนต์ไม่ได้สร้างคนตรงนี้ เราก็อาจเอา FIT Auto มารองรับการซ่อมบำรุงพวกรถ EV เพราะทำได้เลย หรือเพื่อกระตุ้นให้เกิด EV เร็วขึ้น ปตท.อาจจะต้องลงทุน ฟีดรถเช่าเป็น EV ก็ได้ เช่น รถพนักงานปตท.ที่ต้องใช้เป็นรถ EV ก็ได้ หรือให้บริษัทในเครือเช่า หรือใครเช่า ก็เป็นไปได้เปิดธุรกิจรถเช่า EV ...อันนี้เป็นเรื่องใหม่ถ้ายังไม่เกิด วิธีคิดคือจะทำอย่างไรให้เกิดก็ต้องกระตุ้นทั่งฝั่งดีมานด์ และซัพพลาย ถ้าเรามอง EV เป็นสิ่งที่ดีกับประเทศในเรื่องของมลภาวะ เรื่องของเทคโนโลยีดีขึ้น ฉะนั้น จะทำอย่างไรในช่วงแรกช่วงการเปลี่ยนผ่านให้เร็วขึ้น ก็เหมือนการลงทุนที่ปตท.ลงทุนท่อก๊าซฯ"นายบุรณิน กล่าว
นายบุรณิน กล่าวว่า สิ่งที่ ปตท.จะพัฒนาสถานีบริการอัดประจุไฟฟ้า (Charging Station) ช่วงแรกจะเป็นรูปแบบของกระแสสลับ AC ซึ่งใช้เวลาชาร์จประมาณ 2-3 ชั่วโมง ซึ่งใช้เงินลงทุนไม่สูงมากนัก จากที่มีทั้งหมด 3 รูปแบบ ซึ่งรวมถึงการเสียบไฟตามบ้าน หรือ wall charge และการชาร์จรูปแบบกระแสตรง DC ซึ่งจะเป็น Quick Charge ใช้เวลาประมาณ 40-45 นาที
ปัจจุบัน ปตท.ได้ตั้ง Charging Station แล้ว 4-5 แห่ง ซึ่งเป็นสถานีเพื่อการทดลองในพื้นที่กรุงเทพฯ ,ชลบุรี ,วังน้อย และระยอง ขณะที่มีเป้าหมายจะเปิดดำเนินการทั้งหมด 21 แห่ง ซึ่งจะต้องขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เพื่อให้ขายไฟฟ้ากับลูกค้าได้ ซึ่งปัจจุบันได้ยื่นขออนุญาตไปแล้วและรอการได้รับอนุมัติในลำดับต่อไป
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกกพ.ได้กำหนดอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ EV ที่ปตท.จะต้องรับซื้อจากการไฟฟ้ามาให้ชั่วคราว หลังจากนั้นปตท.ก็จะนำมาพิจารณาร่วมกับค่าลงทุนสถานี ระยะเวลาชาร์จ ปริมาณไฟฟ้าที่ใช้ เพื่อกำหนดราคาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคต่อไป ซึ่งต้องพิจารณารายละเอียดของรูปแบบอีกครั้ง
นอกเหนือจากนั้น ปตท.ยังได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ,สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และการไฟฟ้า เพื่อพัฒนาเรื่องยานยนต์ไฟฟ้าและที่ชาร์จไฟฟ้าให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้สามารถทำร่วมกันได้ ก็จะทำให้เกิดการอำนวยความสะดวกกับผู้ใช้รถยนต์ EV ด้วย
"เรื่องพวกนี้จะยังไม่เกิดภายใน 2-3 ปี แต่จะเกิดภายใน 5 ปี 10 ปีต้องมีการวางแผน ฝั่งที่เกี่ยวกับปตท.ในด้านของเทคโนโลยี คือเรื่องของแบตเตอรี่ ฝั่งที่เกี่ยวข้องกับตลาด การใช้ ก็ดูปั๊ม EV ที่มี หรือมองธุรกิจอื่น เช่น รถเช่า มองเรื่องดีลเลอร์ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าอยู่ดีๆปตท.จะกระโดดมาเป็นดีลเลอร์รถยนต์ก็ไม่ง่าย แต่บางอย่าง FIT Auto จะเป็นคนรับเซอร์วิสได้ คือในเรื่องธุรกิจที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี การที่จะทำอย่างไรที่จะหาทางเลือกจนมีความชัดเจนลงตัวแล้วค่อยกระโดดไปเต็มตัว"นายบุรณิน กล่าว