(เพิ่มเติม) ตลท.เผยมี Startup-SME 8 บริษัท พร้อมเข้าระดมทุนบน LiVE แพลตฟอร์ม, Startup สนใจ IPO 2-3 ราย

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 4, 2018 14:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ตั้ง บริษัท ไลฟ์ฟินคอร์ป จำกัด โดยถือหุ้น 99.99% เพื่อให้บริการแพลตฟอร์มในการระดมทุนรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Crowdfunding และ การซื้อขายหลักทรัพย์ในรูปแบบเจรจาต่อรอง (Over The Counter : OTC) แก่ผู้ประกอบการ Startup และ SME โดยนำ เทคโนโลยี blockchain มาใช้ในการพัฒนา "LiVE" แพลตฟอร์ม ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับธุรกิจสะดวกต่อการ ขยายบริการเชื่อมต่อพันธมิตรในอนาคต

ปัจจุบันมี Startup และ SME พร้อมเข้าระดมทุนในแพลตฟอร์มแล้ว 8 บริษัท ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีความหลากหลายทั้งแบบ แอพพลิเคชัน สินค้าอุปโภค บริโภค เครื่องมือแพทย์ และมีอีกกว่า 50 บริษัท แสดงความสนใจเข้าระดมทุน ซึ่งมีความหลากหลายทาง ธุรกิจ โดยจะเน้นธุรกิจที่มีนวัตกรรมในด้านต่างๆ ด้านผู้ลงทุนมีกองทุนในรูปแบบ Venture Capital, Private Equity, Corporate Venture Capital, นิติบุคคล และบุคคลธรรมดาที่มีฐานะทางการเงินและมีประสบการณ์ในการลงทุน

บริษัทที่พร้อมระดมทุนบน LiVE แพลตฟอร์ม
ลำดับ          บริษัท                                        รายละเอียด
1          บริษัท สตอเรจ เอเชีย จำกัด          ผู้ให้บริการ Personal Storage ให้บริการเช่าห้องเก็บของส่วนตัว
2          บริษัท เคมิลค์ โพรดักส์ จำกัด          ผู้ผลิต Cereal จากข้าวไทยที่มีโภชนาการสูง น้ำตาลน้อย
3          บริษัท พรีมา เลเซอร์ เทอร์ราพี จำกัด   ผู้เชี่ยวชาญอุปกรณ์เลเซอร์ทางการแพทย์
4          บริษัท บุ๊คโดส จำกัด                 ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นห้องสมุดออนไลน์
5          บริษัท ดิจิตอล บัตเลอร์ จำกัด          ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นสารพัดประโยชน์ในการให้บริการครบวงจร
                                           รวมทั้งเชื่อมการสื่อสารในโครงการที่อยู่อาศัย
6          บริษัท Smart Health Care จำกัด     ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นตรวจสุขภาพโรคเบาหวาน
7          บริษัท แพค คอร์ปอเรชั่น จำกัด         ผู้ผลิตเครื่องทำน้ำร้อนและเครื่องปรับอากาศเพื่อประหยัดพลังงาน
8          บริษัท HandiGo จำกัด               ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นบริการรถรับ-ส่ง เช่ารถ ไกด์นำเที่ยว
                                           ให้แก่โรงแรมและบริษัททัวร์

"ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งสร้างโอกาสการขยายการเติบโตของธุรกิจด้วยการสร้าง startup ecosystem อย่างครบ วงจร ตั้งแต่การให้ความรู้และประสบการณ์ในการจัดการธุรกิจอย่างเป็นระบบสำหรับผู้ประกอบการในระยะเริ่มต้นเข้าสู่การระดมทุน ให้แก่ผู้ประกอบการ Startup และ SME ที่เริ่มเติบโตและขยายธุรกิจ จนถึงการเชื่อมโยงกับผู้ลงทุนสถาบันเพื่อสร้างความแข็ง แกร่ง เชื่อมั่นว่า "LiVE" แพลตฟอร์ม จะเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนประเทศโดยเป็นช่องทางให้ Startup และ SME ที่เริ่ม ออกนวัตกรรมสู่ตลาดแต่ยังขาดโอกาสทางการเงินในปัจจุบัน เข้าถึงแหล่งเงินทุนในรูปแบบ Crowdfunding ซึ่งมีจุดเด่นที่สามารถใช้ เป็นสื่อประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างและขยายฐานลูกค้าด้วยการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ ขณะเดียวกันยังเป็นการโอกาสให้ผู้ลง ทุนตามคุณสมบัติที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนดทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลได้เลือกลงทุนในกิจการที่มีศักยภาพเติบโตในอนาคต" นาง เกศรา กล่าว

นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการทำงานร่วมกัน ได้แก่ สำนักงานคณะ กรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) สำนักงานพัฒนา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญในการผลักดันนโยบาย การบ่มเพาะธุรกิจ รวมถึงให้คำปรึกษา และให้การสนับสนุน ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย (KTB) บ. บัวหลวง เวนเจอร์ส บ. บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล บ. กรุงศรี ฟินโนเวต บมจ. อินทัช โฮลดิ้ง (INTUCH) บมจ. อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) ซึ่งเป็นผู้ลงทุนสถาบันที่มีประสบการณ์มาช่วย แบ่งปัน แนะนำ รวมถึงมองหาโอกาสร่วมธุรกิจ นอกจากนี้ ยังร่วมกับธนาคารกรุงเทพ (BBL) จัดการอบรมทั่วประเทศถึงการใช้ กลไกตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการสร้างการเติบโตให้ธุรกิจ

สำหรับคุณสมบัติธุรกิจที่จะเข้ามาระดมทุนต้องเป็นบริษัทจำกัดที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทย โดยไม่จำกัดทุน จดทะเบียน ขั้นต่ำ ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารไม่มีประวัติความผิดทางกฎหมาย และมีข้อมูลงบการเงินที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ในกรณี ต้องการระดมทุนเกิน 20 ล้านบาท ต้องมีประวัติการระดมทุนอย่างน้อย 5 ล้านบาทหรือมี Sponsor หากระดมทุนเกิน 100 ล้าน บาท ต้องมีงบการเงินรับรองโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. ส่วนผู้ลงทุนจะแบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1) ผู้ลงทุน สถาบัน 2) กิจการเงินร่วมลงทุน 3) นิติบุคคลร่วมลงทุน และ 4) ผู้ลงทุนที่มีลักษณะเฉพาะ ซึ่งต้องมีรายได้ต่อปีไม่ต่ำกว่า 4 ล้าน บาท หรือมีสินทรัพย์รวมไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท และมีประสบการณ์ลงทุนไม่น้อยกว่า 1 ปี

นางเกศรา กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมี Startup ที่แสดงความสนใจเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯและเสนอขายหุ้นให้ แก่ประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 2-3 ราย ซึ่งคาดว่าในระยะเวลา 2-3 ปีข้างหน้าจะมีบริษัทพร้อมเข้าระดมทุน 1 ราย ซึ่ง บริษัทจำเป็นต้องดำเนินการให้เข้ากับกฏเกณฑ์เพื่อสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้

ส่วนแนวโน้มที่ปัจจุบันธุรกิจครอบครัวให้ความสนใจในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯนั้น อาจเป็นเพราะ เมื่อมีการสืบทอดสู่ generation ที่ 2-3 ที่เจ้าของกิจการอาจไม่ต้องเป็นผู้บริหารเอง และต้องการเป็นเพียงผู้ถือหุ้น ประกอบกับมี ตัวอย่างของธุรกิจครอบครัวที่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดฯแล้วดี นอกจากนี้การจ้างมืออาชีพเข้ามาบริหารก็ยังเป็นทางออกที่ดีสำหรับ เจ้าของกิจการรุ่นใหม่ อีกทั้งยังมีช่องทางการระดมทุนอื่นมากขึ้น ซึ่งสะดวกกว่าการกู้จากสถาบันการเงิน เช่น การออกหุ้นกู้ หรือการ ขายสินทรัพย์เข้ากองรีท (REIT) ก็ทำใหุ้ธุรกิจได้รับประโยชน์มากกว่า แม้การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนฯจะอาจมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่ม ขึ้นก็ตาม

นางเกศรา กล่าวต่อว่า ปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ได้เปลี่ยนจากการเชิญชวนให้บริษัทเข้ามาจดทะเบียน เป็นการทำให้ บริษัทที่เข้ามาจดทะเบียนมีคุณภาพและอยู่ได้อย่างยั่งยืน ซึ่งบริษัทจดทะเบียนเองมีหน้าที่ดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโต และทำตาม กฏเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด

https://www.youtube.com/watch?v=WQ1EdGwlK5k&t=8s


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ