(เพิ่มเติม) ORI ตั้งงบลงทุนธุรกิจโรงแรมและมิกซ์ยูสใน 5 ปี (ปี 61-65) 2 หมื่นลบ. พร้อมดัน"วัน ออริจิ้น"เข้าตลาดหุ้นปี 64-65

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 11, 2018 17:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางกมลวรรณ วิปุลากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ในเครือบมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) เปิดเผยว่า วัน ออริจิ้น จะเป็นบริษัทที่ทำหน้าที่ดูแลธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียน (Recurring Income Business) ทั้งหมดให้แก่เครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ และจะเป็นบริษัทที่มีบทบาทสำคัญต่อการสร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาวให้แก่ภาพรวมของออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ โดยตั้งเป้าหมายว่าภายในช่วง 5 ปีจากนี้ (ปี 61-65) บริษัทจะเดินหน้าลงทุนในธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียนด้วยงบลงทุนไม่น้อยกว่า 2 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทแบ่งประเภทธุรกิจที่จะลงทุนออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่ม Accommodation เช่น ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ 2.กลุ่มสำนักงานให้เช่าและค้าปลีก (Office & Retail) และ 3.กลุ่มธุรกิจอาหาร (Foods) โดยจะให้น้ำหนักกับกลุ่มธุรกิจ Accommodation 70% และอีก 2 กลุ่มที่เหลือรวมกัน 30%

"เราตั้งเป้าว่าทรัพย์สินจากการลงทุนดังกล่าวจะช่วยสร้าง Market Value ให้กับเราประมาณ 30,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน จะช่วยสร้างยอดขายรวมในช่วงแผน 5 ปีนี้ให้กับเราประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งน่าจะทำให้เราขึ้นแท่นเป็น ท็อป 5 ในวงการธุรกิจโรงแรมและมิกซ์ยูส" นางกมลวรรณ กล่าว

นางกมลวรรณ กล่าวอีกว่า เงินทุนที่ใช้ลงทุนในช่วง 3-5 ปีแรก จะมาจาก 2 ส่วน ได้แก่ 1.เงินทุนจาก ORI 2.เงินทุนจากการร่วมทุนกับพันธมิตรระดับโลก เช่น บริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรรายใหญ่ของญี่ปุ่น ซึ่งมีการสร้างความร่วมมือระหว่างกันแล้วหลายโครงการ อาทิ โครงการโรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก ทองหล่อ (Staybridge Suites Bangkok Thonglor) ซึ่งเคยประกาศไปแล้ว ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนจะจัดตั้งทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) รวมถึงการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อเพิ่มโอกาสในการระดมทุนเพิ่มเติม อันจะเป็นผลดีต่อการขยายธุรกิจในระยะยาวด้วย

การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของบริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด คาดว่าจะอยู่ในช่วงปี 64-65 ซึ่งบริษัทมองว่าการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯจะเป็นการช่วยเสริมศักยภาพการเติบโตของบริษัทและเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้นเพื่อนำมาต่อยอดธุรกิจ ส่วนการตั้งREIT จะอยู่ในช่วงแผน 5 ปี โดยจะนำสินทรัพย์จัดตั้งเริ่มแรกมูลค่ากองราว 1.5-2 พันล้านบาท และจะขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT ปีละไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท โดยเงินที่ได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT นั้นบริษัทจะนำไปลงทุนและชำระคืนหนี้ โดยมีนโยบายรักษาอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ไม่เกิน 2%

ขณะที่การพัฒนาโครงการโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ อาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก และร้านอาหาร ในช่วงแผน 5 ปี ที่วางงบลงทุนไว้ 2 หมื่นล้านบาท จะใช้แหล่งเงินทุนของบริษัท 5.8 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือจะมาจากเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน และเงินจากการร่วมทุนกับพันธมิตร คือ โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ ซึ่งได้มีการร่วมทุนไปแล้ว 2 โครงการ โดยมีแผนการลงทุนทั้งหมด 25 โครงการ มูลค่า 3 หมื่นล้านบาท ในช่วง 5 ปีนี้ จะมีทั้งโครงการที่บริษัทพัฒนาเองและร่วมทุนกับพันธมิตร

"ลำดับการนำ"วัน ออริจิ้น"เข้าตลาด และการตั้งกอง REIT ตรงนี้ก็ยังไม่แน่นอนว่าอะไรจะก่อนหรือหลัง ก็เป็นไปตามความเหมาะสม ซึ่งกอง REIT ก็ต้องรอให้สินทรัพย์ของเราสร้างรายได้ 1-2 ปีก่อน ส่วนการเข้าตลาดก็คงในช่วงปี 64-65"นางกมลวรรณ กล่าว

นางกมลวรรณ กล่าวว่า ด้านเป้าหมายการพัฒนาโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ บริษัทตั้งเป้าจะมีจำนวนห้องพักรวม 4,000 ห้อง ภายในปี 65 และก้าวขึ้นเป็นท็อป 5 ของผู้ประกอบการโรงแรมที่จดทะเบียนไนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในแง่ของจำนวนห้อง โดยบริษัทจะใช้เชนบริหารโรงแรมหลักในเครือ IHG ที่ปัจจุบันมีการเซ็นสัญญาบริหารไปแล้ว 1,200-2,000 ห้อง ส่วนการลงทุนด้านอาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีกจะทำไปพร้อม ๆ กัน และบางโครงการจะเป็นโครงการที่อยู่รวมกับโรงแรมในลักษณะมิกซ์ยูส

ด้านธุรกิจอาหารบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุน ซึ่งมีหลายรูปแบบ เช่น การพัฒนาแบรนด์อาหารเอง การซื้อแบรนด์อาหารเข้ามา การร่วมทุนกับพันธมิตร และการพัฒนาพื้นที่ร้านอาหาร โดยคาดว่าในปีนี้จะได้เห็นการลงทุนในธุรกิจอาหารที่ชัดเจน 1 ดีล

สำหรับรายได้ของบริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ใน 5 ปีนี้ หรือภายในปี 65 จะมีรายได้อยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนรายได้ 10% ของ ORI โดยปัจจุบันบริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด มีรายได้จากการให้บริการโครงการ Portobello Mall ศรีราชา เพียงโครงการเดียวที่เปิดให้บริการไปแล้ว 2 ปี พื้นที่เช่า 3,000 ตารางเมตร และมีอัตราการเช่า 80% โดยที่ผลการดำเนินงานของบริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ยังมีผลการดำเนินงานเป็นกำไร และจะค่อย ๆ เห็นการเติบโตขึ้นในปี 62 หลังจากที่โครงการโรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา แหลมฉบัง จำนวน 347 ห้อง เริ่มเปิดให้บริการได้

ด้านนางจตุพร ผิวขาว กรรมการผู้จัดการ บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด กล่าวว่า กลยุทธ์ในการพัฒนาโครงการของวัน ออริจิ้น จะเน้นเกาะทำเลกรุงเทพฯ และระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งเป็น 2 ทำเลศักยภาพที่ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ให้ความสำคัญอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นทำเลที่มีความต้องการของผู้บริโภคที่มีศักยภาพในหลายเซ็กเมนท์ ขณะเดียวกัน ยังวางแผนเข้าไปลงทุนในเมืองท่องเที่ยวสำคัญ เช่น พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ อีกด้วย รูปแบบการพัฒนาเปิดกว้างทั้งการพัฒนาในลักษณะมิกซ์ยูส และการพัฒนาโครงการแต่ละประเภทแบบสแตนด์อโลน ขึ้นอยู่กับศักยภาพของทำเลและที่ดินแต่ละแปลง

"กลยุทธ์การเติบโตจะมีทั้งการจ้างเชนระดับโลกเข้ามาบริหาร การสร้างแบรนด์ของตัวเอง ตลอดจนการเข้าซื้อกิจการ ขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจ และความต้องการของฐานลูกค้า กลยุทธ์ทั้งหมดจะเป็นส่วนสำคัญช่วยเพิ่มความแข็งแกร่ง และทำให้วัน ออริจิ้น สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว" นางจตุพร กล่าว

เบื้องต้นคาดการณ์ว่าภายใน 5 ปี จะมีการพัฒนาโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ทั้งหมด 15 แห่ง ทั้งในกลุ่มลูกค้า corporate และ leisure รวมจำนวนห้องพักกว่า 4,000 ห้อง ส่วนของอาคารสำนักงานและร้านค้าอีก 10 แห่ง รวมพื้นที่ไม่น้อยกว่า 50,000 ตารางเมตร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ