นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) กล่าวว่า บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ในปีนี้ที่ 2.5 หมื่นล้านบาท เติบโต 25% จากระดับ 2 หมื่นล้านบาทในปีก่อน และปีหน้าคาดรายได้เพิ่มเป็น 3 หมื่นล้านบาท แม้ว่าการเข้าพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายสีเหลืองจะมีความล่าช้า โดยคาดว่าจะเริ่มงานก่อสร้างได้ในเดือน ส.ค.นี้ จากเดิมที่คาดว่าจะเข้าพื้นที่ได้ภายใน 6 เดือนนับจากวันที่เซ็นสัญญา 2 โครงการนี้เมื่อ มิ.ย.60 ทำให้โอกาสที่จะรับรู้รายได้เพิ่มเป็น 3 หมื่นล้านบาทนั้นไม่เกิดขึ้นในปีนี้ อย่างไรก็ดี ทั้งสองโครงการมีระยะเวลาก่อสร้าง 39 เดือน
สำหรับในช่วงครึ่งหลังปีนี้เชื่อว่าภาครัฐจะยังคงมีโครงการขนาดใหญ่ ทยอยออกมาประมูลมากขึ้น ได้แก่ โครงการรถไฟทางคู่ ระยะ 2 รวมเป็น 9 เส้นทาง วงเงินลงทุนราว 4.3 แสนบ้านบาท ซึ่งคาดจะเริ่มประมูลในไตรมาส 4/61 วงเงินราว 3 แสนล้านบาท ,โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี มูลค่า 1.07 แสนล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ วงเงินกว่า 1 แสนล้านบาท และ โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน วงเงินลงทุนราว 2 แสนล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะได้งานประมูลประมาณ 25% ของมูลค่าโครงการที่ออกประมูล
ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ (Backlog) มูลค่า 1.2 แสนล้านบาท นับตั้งแต่ต้นปี 61 ถึงปัจจุบันได้งานใหม่เข้ามา 2.7 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายงานใหม่ปีนี้ 3 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามยังคงเป้าหมายปริมาณงานใหม่ปีนี้ที่ระดับเดิม แม้เชื่อว่าจะมีงานประมูลในช่วงครึ่งปีหลังเข้ามามาก แต่คาดว่ากว่าจะลงนามสัญญาได้คงอยู่ในช่วงต้นปี 62 จึงยังไม่สามารถบันทึกงานใหม่ได้ทันในปีนี้
ทั้งนี้ งานก่อสร้างของโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มีมูลค่างาน 1.0-1.2 แสนล้านบาท โดยบริษัทจะใช้กลุ่ม BSR เข้าร่วมประมูล ซึ่งขณะนี้อาจจะมีรายที่ 4 เข้าร่วมกลุ่ม BSR ด้วย จากปัจจุบันที่กลุ่ม BSR ประกอบด้วย บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) และ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH)