นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศุภาลัย (SPALI) เปิดเผยว่า ยอดขายของบริษัทในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาทำยอดขายได้แล้ว 40% ของเป้าหมายยอดขายที่ตั้งไว้ 3.3 หมื่นล้านบาท แม้ว่ายังไม่ได้มีการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งยอดขายส่วนใหญ่มาจากการขายโครงการแนวราบและโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการขาย และคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จแล้วเข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมบนทำเลรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่เริ่มเห็นยอดขายกลับมามากขึ้น โดยเฉพาะเดือนพ.ค.ยอดขายของบริษัทเติบโต 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ดีขึ้น จากความมั่นใจของประชาชนหลังจากภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวดี และยังมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยอยู่มาก
สำหรับแนวโน้มยอดขายในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทคาดว่าจะทำได้ดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะในช่วงครึ่งปีหลังจะเปิดโครงการคอนโดมิเนียมเพิ่มมากขึ้น โดยจะเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมอีก 4 โครงการ มูลค่ารวม 1.64 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเปิดโครงการที่แน่นอนแล้ว 3 ทำเล ได้แก่ ประชาธิปก-วงเวียนใหญ่, รามคำแหง และสาทร ขณะที่โครงการแนวราบมีแผนจะเปิดในช่วงครึ่งปีหลังอีก 21 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.4 หมื่นล้านบาท ทั้งโครงการในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด
ด้านยอดโอนของบริษัทในไตรมาส 2/61 มีแนวโน้มที่เติบโตขึ้น เพราะจะโอนโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ที่สร้างเสร็จเข้ามา 2 โครงการ และในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการโอนโครงการใหม่ที่สร้างเสร็จเข้ามาอีก 5 โครงการ ซึ่งทำให้บริษัทคาดว่ายอดโอนในช่วงครึ่งปีหลังจะสูงกว่าครึ่งปีแรก ทำให้บริษัทมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะยังคงทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2.6 หมื่นล้านบาท อีกทั้งในช่วง 3 ไตรมาสของปีนี้คาดว่าจะทยอยโอนจากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท จาก Backlog ทั้งหมด 4.1 หมื่นล้านบาท ในปัจจุบัน โดยที่บริษัทยังไม่มีการปรับเป้าหมายทั้งยอดขายและรายได้ในปีนี้
ด้านอัตราการปฏิเสธสินเชื่อของลูกค้าที่ซื้อโครงการของบริษัทนั้นปัจจุบันอยู่ที่ 9% ต่ำกว่าอัตราการปฏิเสธสินเชื่อของอุตสาหกรรมที่อยู่กว่า 10% ซึ่งอัตราการปฏิเสธสินเชื่อของบริษัทมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากการที่มีการร่วมกันวางแผนก่อนการยื่นขอสินเชื่อจากธนาคาร ประกอบกับธนาคารต่างๆมีการแข่งขันปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้น
ล่าสุดบริษัทได้เปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ 2 โครงการแรกในปีนี้ใน 2 ทำเลยอดนิยม โดยโครงการแรก คือ โครงการศุภาลัย เวอแรนด้า สุขุมวิท 117 มูลค่า 2.57 พันล้านบาท จำนวน 1,105 ยูนิต ขนาดห้อง 27-65 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท เปิดจองวันที่ 22-24 มิ.ย.นี้ โดยที่บริษัทได้มีการแบ่งจำนวนยูนิตสัดส่วน 25% ให้กับเอเจนท์ต่างชาติรายหนึ่ง เพื่อขายให้กับลูกค้าชาวต่างชาติของเอเจ้นท์
โดยจุดเด่นของโครงการศุภาลัย เวอแรนด้า สุขุมวิท 117 เป็นการเดินทางที่คล่องตัว เนื่องจากใกล้รถไฟฟ้าสถานีปู่เจ้าสมิงพราย เพียง 200 เมตร หรือเพียง 9 สถานีถึงทองหล่อ และแค่ 1 สถานีถึง Interchange สำโรง อีกทั้งใกล้จุดเชื่อมต่อทางด่วน วงแหวนรอบนอก สนามบินสุวรรณภูมิ ห้างสรรพสินค้า ใกล้ชิดแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ และจุดชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา
ส่วนโครงการที่สอง คือ โครงการศุภาลัย ลอฟท์ ประชาธิปก-วงเวียนใหญ่ มูลค่า 1.4 พันล้านบาท จำนวน 363 ยูนิต ขนาดห้อง 29-165 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้น 2.29 ล้านบาท เปิดจอง 13-15 ก.ค. 61 จุดเด่นของโครงการสามารถเข้าสู่ใจกลางเมืองด้วยโครงข่ายคมนาคมที่รวดเร็ว อาทิ รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีสะพานพุทธ รถไฟฟ้า BTS สถานีวงเวียนใหญ่ และรถไฟฟ้าสายสีทอง สถานีประชาธิปก เชื่อมต่อถนนสายหลักสำคัญ อาทิ เจริญนคร สีลม สาทร เยาวราช เชื่อมต่อการคมนาคมทางเรือที่ท่าเรือคลองสาน และท่าเรือเป๊ปซี่ ครบครันด้วยแหล่ง Chill Out และ Lifestyle Mall อาทิ Icon Siam Platform แวดล้อมด้วยย่านธุรกิจการค้าที่สำคัญและสถาบันการศึกษาชั้นนำมากมาย โดยที่โครงการศุภาลัย ลอฟท์ ประชาธิปก-วงเวียนใหญ่ บริษัทคาดว่าจะสามารถขายได้หมดภายในช่วงวันพรีเซล 3 วัน
"เชื่อมั่นว่าคอนโดฯใหม่ทั้ง 2 โครงการ จะได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างดี ด้วยจุดเด่นเรื่องทำเลที่ตั้งโครงการ ความคุ้มค่าทั้งราคาและพื้นที่ การออกแบบตัวอาคารที่คำนึงถึงการประหยัดพลังงาน และการออกแบบห้องพักอาศัยที่สามารถปรับฟังก์ชั่นการใช้งานได้หลายรูปแบบ"นายไตรเตชะ กล่าว
ด้านนายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร SPALI เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาโครงการบ้านผู้สูงอายุ และศูนย์สุขภาพ เพื่ต้องการคืนประโยชน์ให้สังคม โดยไม่หวังผลกำไรมากนัก ด้วยการซื้อดินติดกับโรงแรมศุภาลัย ป่าสัก รีสอร์ท แอนด์ สปา เพิ่มอีก 16-17 ไร่ โดยสร้างเป็นบ้านแถว ภายใต้ชื่อ Supalai Elderly Home & Wellness Center" ขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 50-60 ตารางเมตร ราคาอยู่ที่ราว 1 ล้านบาท จำนวน 100 กว่ายูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 300 ล้านบาท สามารถอยู่อาศัยได้ตลอดชีพ หรือเช่าระยะยาว 30 ปี แต่ไม่สามารถโอนเป็นมรดกตกทอดให้ทายาทได้ ซึ่งยังไม่สามารถสรุปข้อมูลได้ทั้งหมด ขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในปลายปี 61 และแล้วเสร็จในปี 62
นอกจากนี้ยังวางงบลงทุนอีกราว 20 ล้านบาท ในการรีโนเวทและเพิ่มส่วนต่าง ๆ ในโรงแรมศุภาลัย ป่าสัก รีสอร์ท แอนด์ สปา ซึ่งเปิดให้บริการมานานประมาณ 20 ปีแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า โดยขณะนี้ได้ทยอยปรับปรุงไปบ้างแล้ว ปัจจุบันราคาห้องพักอยู่ที่ประมาณ 1,000 กว่าบาท/คืน และเมื่อปรับปรุงแล้วเสร็จก็อาจจะมีการปรับราคาเข้าพักขึ้นอีกเล็กน้อย แต่จะต้องดูสภาวะของตลาดประกอบด้วย