โบรกเกอร์ต่างแนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) เล็งผลการดำเนินงานปกติในไตรมาส 2/61 พลิกเป็นกำไรจากไตรมาส 1/61 ที่ผลการดำเนินงานปกติขาดทุน เนื่องจากราคาหมูฟื้นตัวชัดเจน และราคาไก่ก็ดีขึ้น ขณะเดียวกันธุรกิจหมูในเวียดนามก็ดีขึ้น รวมถึงยังเริ่มเข้าสู่ช่วง High Season ของการส่งออกในไตรมาส 3/61 ด้วย
นอกจากนี้ จีนเริ่มกลับมานำเข้าไก่ของไทย ช่วยหนุนให้ CPF มีตลาดส่งออกไก่เพิ่มขึ้นไปยังจีนด้วย จากเดิมตลาดหลักจะส่งออกไก่ไปที่ญี่ปุ่น และประเทศในยุโรป
ทั้งนี้ หากมองผลดำเนินงานของ CPF ในปีนี้คาดว่าจะมีกำไรปกติ 10,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีกำไรปกติ 6,000 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยบวกจากธุรกิจสัตว์เลี้ยง (Farm) เริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะราคาหมูในเวียดนามที่ปรับตัวขึ้นดีกว่าคาด ขณะที่ราคาหมูในไทยมีโอกาสฟื้นตัวตามจากการปรับลดปริมาณหมูเลี้ยง ด้าน ราคาไก่คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี ขณะที่ธุรกิจอื่น ๆ ทั้งอาหารสัตว์ (Feed) และอาหารสำเร็จรูป (Food) ยังไปได้ด้วยดี
ส่วนกำไรสุทธิปีนี้คาดว่าอยู่ในช่วง 12,966-14,206 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 15,259 ล้านบาท เป็นผลจากรายการพิเศษระหว่างปีที่เกิดขึ้น เช่น การขายหุ้น CPALL อาจจะน้อยลงในปีนี้
ราคาหุ้น CPF ช่วงบ่ายอยู่ที่ 26 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ลดลง 0.31%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ซื้อ 31.10
ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ซื้อ 30.25
เอเชีย เวลท์ ซื้อ 30.00
ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 28.00
น.ส.สุทธาทิพย์ พีรทรัพย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ช่วงสั้น CPF มีปัจจัยหนุนจากคาดการณ์ผลการดำเนินงานปกติจะฟื้นตัวในไตรมาส 2/61 โดยสามารถพลิกเป็นกำไรได้ จากไตรมาส 1/61 ที่ผลดำเนินงานปกติขาดทุน เนื่องจากราคาหมูฟื้นตัวอย่างชัดเจน และราคาไก่ก็ดีขึ้นได้บ้าง ขณะเดียวกันธุรกิจหมูในเวียดนามก็ดีขึ้น รวมถึงเริ่มเข้าสู่ช่วง High Season ของส่งออกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่จีนเริ่มกลับมานำเข้าไก่จากไทย ทำให้ขณะนี้ก็เริ่มมีการส่งออกไก่ไปได้บ้างแล้ว นับเป็นการเพิ่มตลาดส่งออกจากเดิมตลาดหลักอยู่ที่ญี่ปุ่น และยุโรป ซึ่งเมื่อส่งออกไก่ไปยังจีนได้ ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่ได้ตลาดจีนกลับมา
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือน มิ.ย.นี้เริ่มที่จะเห็นราคาหมูอ่อนตัวลงอีกครั้ง เพราะปริมาณหมูมีมาก ดังนั้นก็มีโอกาสที่ราคาหมูจะอ่อนตัวลงในไตรมาส 3/61
แต่หากมองผลดำเนินงานของ CPF ในปี 61 คาดว่าจะมีกำไรปกติ 10,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีกำไรปกติ 6,000 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจหมูในเวียดนามค่อย ๆ ดีขึ้นจากเมื่อปีก่อนที่ขาดทุนมากจากราคาหมูที่ตกต่ำ ส่วนภาพรวมกำไรสุทธิปีนี้คาดว่าจะอยู่ระดับ 13,000 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 15,259 ล้านบาท เป็นผลจากรายการพิเศษระหว่างปี เช่น การขายหุ้นบมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) ที่อาจจะขายหุ้นออกไปน้อยลงในปีนี้
ด้าน บล.เอเชีย เวลท์ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนวโน้มผลประกอบการของ CPF ในปีนี้จะฟื้นตัว โดยคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2/61 จะเริ่มปรับตัวดีขึ้นจากผลของฤดูกาล ที่ในช่วงไตรมาส 2 และ 3 ของทุกปีจะเป็นช่วง High Season ของบริษัท
ทั้งนี้ ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิในปี 61 ขึ้น 9% เป็น 12,966 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยบวกจากธุรกิจสัตว์เลี้ยง (Farm) เริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะราคาหมูในเวียดนามที่ปรับตัวขึ้นดีกว่าคาด ในขณะที่ราคาหมูในไทยมีโอกาสฟื้นตัวตามจากการปรับลดปริมาณหมูเลี้ยง, ราคาไก่คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 61, ธุรกิจอื่น ๆ ทั้งอาหารสัตว์ (Feed) และ อาหารสำเร็จรูป (Food) ยังไปได้ด้วยดี และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทย่อยอย่าง CPALL ที่คาดว่าผลประกอบการจะยังเติบโตแข็งแกร่งจากจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องและการเพิ่มบริการใหม่ ๆ
ส่วนบทวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า แนวโน้มกำไรของ CPF ในไตรมาส 2/61 ดูดีขึ้นกว่าเดิมที่เคยคาดว่าจะไม่สดใสนัก เพราะราคาหมูที่เวียดนามปรับขึ้นค่อนข้างแรง น่าจะช่วยหักล้างธุรกิจหมูในประเทศที่น่าจะยังขาดทุนต่อเนื่อง
แม้ราคาหมูในประเทศช่วงเดือน เม.ย. ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 62 บาท/กิโลกรัม (กก.) เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายให้ปรับขึ้นราคาหมู 3 ครั้งในช่วง 1 เดือน เพื่อให้สูงกว่าระดับต้นทุนการเลี้ยงของผู้เลี้ยงรายย่อย และเมื่อจบนโยบายดังกล่าว ราคาหมูล่าสุดในช่วงวันที่ 8 พ.ค.เป็นต้นมา ได้ปรับลงมาอยู่ที่ 59.5 บาท/กก. และคาดอาจจะปรับลงได้อีก สะท้อน Demand-Supply ที่แท้จริง และเป็นไปตามวงจรการเลี้ยงหมู
อย่างไรก็ดี คาดกำไรจะกลับมาฟื้นตัวได้ดีอีกครั้งในไตรมาส 3/61 ซึ่งเป็น High Season ของการส่งออก และน่าจะได้เห็นราคาหมูในเวียดนามยืนเหนือต้นทุนการเลี้ยงได้ตลอดทั้งไตรมาส
รวมถึงธุรกิจไก่น่าจะดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จากการส่งออกที่มากขึ้น ล่าสุด CPF ได้รับการติดต่อจากผู้นำเข้าของจีนหลายราย ซึ่งน่าจะเป็นตลาดส่งออกสำคัญในอนาคต พร้อมประมาณการกำไรสุทธิปี 61 ไว้ที่ 14,206 ล้านบาท ลดลง 6.9% จากปีที่แล้ว ที่มีการบันทึกำไรจากรายการพิเศษ