นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บมจ.ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น (SUPER) เปิดเผยว่า โครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม ในจังหวัดสระแก้ว ของบริษัท กรีน เพาเวอร์ เอนเนอร์จี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูก SUPER กำลังการผลิตเสนอขาย 9.9 เมกะวัตต์ (MW) สามารถเดินเครื่องจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในวันนี้ (14 มิ.ย.) ซึ่งจะช่วยผลักดันรายได้ของบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตเกิน 25%
ทั้งนี้ โครงการโรงไฟฟ้าขยะได้รับการสนับสนุนวงเงินกู้จากธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) จำนวน 900 ล้านบาท และจากส่วนของผู้ถือหุ้น 405 ล้านบาท จากวงเงินลงทุนก่อสร้างทั้งหมด 1,350 ล้านบาท โดยอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในส่วนของทุน (EIRR) อยู่ที่ 18-20 %
"โครงการโรงไฟฟ้าขยะก่อสร้างบนพื้นที่ 46.97 ไร่ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว กำลังการผลิตไฟฟ้า 63,360,000 กิโลวัตต์/ปี เม็ดเงินลงทุนในการก่อสร้างเรามีแบงก์กรุงศรีให้การสนับสนุนวงเงินกู้ โดยได้มีการทดสอบระบบในช่วงปลายเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา และ COD ในช่วงกลางเดือนมิย.นี้ ผมเชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับบริษัท"นายจอมทรัพย์ กล่าว
ปัจจุบัน SUPER มีโครงการโรงไฟฟ้าขยะ 3 แห่ง กำลังการผลิตรวม 29.7 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมจังหวัดสระแก้ว 9.9 เมกะวัตต์ ,โครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตร 9.9 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าจากขยะปฎิกูลเพชรบุรี 9.9 เมกะวัตต์ ที่คาดว่าจะ COD ในช่วงปลายปี 62 ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าขยะจ.นนทบุรี บริษัทได้ผ่านการคัดเลือกโดยอยู่ระหว่างการเจรจากับทางราชการ ซึ่งคาดจะได้สัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ราว ๆ ไตรมาส 3/61
นายจอมทรัพย์ กล่าวว่า ในปี 61 รายได้จะเติบโตจากปีที่แล้ว ตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศที่เข้าไปลงทุนในช่วงก่อนหน้า นอกจากนี้ ยังเตรียมความพร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลโครงการต่อเนื่องทั้งโครงการ โซลาร์ราชการและสหกรณ์ ,การซื้อขายไฟฟ้าในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรูปแบบ SPP Hybrid Firm โครงการโรงไฟฟ้าขยะ รวมไปถึงแผนในการขายไฟไฟฟ้าโดยตรงให้กับลูกค้าในลักษณะ Private PPA ก็น่าจะเริ่มดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในปีนี้ จากประสบการณ์ทำงานและความพร้อมคาดว่าน่าจะได้รับงานดังกล่าว