โบรกฯเชียร์"ซื้อ" SAT มองผลงาน Q2/61 ดีกว่างวดปีก่อนรับผลยอดผลิตรถยนต์ของไทยโตดีหนุนกำไรปกติปีนี้ทำนิวไฮ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 15, 2018 15:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์เชียร์"ซื้อ"หุ้น บมจ.สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT) จากทิศทางผลประกอบการไตรมาส 2/61 ที่ดีกว่าไตรมาส 2/60 รับผลบวกของยอดผลิตรถยนต์ที่ปรับดีขึ้น รวมถึงเริ่มรับรู้รายได้อย่างเต็มที่สำหรับคำสั่งซื้อใหม่ทั้งชิ้นส่วนสำหรับรถกระบะ และ Big Truck ขณะที่คาดอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นจากประสิทธิภาพการผลิตและการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น

ทั้งนี้ จากการปรับเป้าหมายยอดผลิตรถยนต์ของไทยในปีนี้ขึ้นเป็น 2.10 ล้านคัน จากเดิม 2.03 ล้านคัน หลังจากช่วง 4 เดือนแรกตลาดในประเทศเติบโตตามภาพรวมเศรษฐกิจ และโครงการรถคันแรกทยอยครบ 5 ปี ส่วนยอดส่งออกยังเติบโตเล็กน้อย โดยยอดการผลิตรถยนต์ที่เติบโตดีกว่าคาด และคำสั่งซื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้นจะช่วยหนุนกำไรปกติปีนี้ของ SAT ทำระดับสูงสุดใหม่

ล่าสุด เมื่อเวลา 14.43 น.ราคาหุ้น SAT อยู่ที่ 23.30 บาท ลดลง 0.30 บาท (-1.27%)

          โบรกเกอร์                    คำแนะนำ                   ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          บัวหลวง                        ซื้อ                           24.30
          ฟิลลิป (ประเทศไทย)            ทยอยซื้อ                         24.00
          เคทีบี (ประเทศไทย)              ซื้อ                           26.50
          หยวนต้า (ประเทศไทย)            ซื้อ                           27.50
          เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ                ซื้อ                           25.50

นายอำนาจ โงสว่าง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ได้ปรับเพิ่มกำไรปกติของ SAT ในปี 61 ขึ้นจากเดิมราว 3% เป็น 868 ล้านบาท หรือเติบโต 23% จากปีก่อน โดยปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ขึ้นเล็กน้อย หลังจากภาคอุตสาหกรรมได้ปรับเป้าหมายยอดผลิตรถยนต์ของไทยในปี 61 ขึ้นเป็น 2.10 ล้านคัน โดยมีปัจจัยหนุนจากยอดขายรถยนต์ในประเทศที่เติบโตดีกว่าคาด ขณะที่ยอดส่งออกยังคงเติบโตเล็กน้อย

สำหรับยอดผลิตรถยนต์ของไทยในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ เติบโตได้ดีเป็น 6.74 แสนคัน เพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากยอดขายรถยนต์ในประเทศเติบโตสูงถึง 16% หลังจากเศรษฐกิจในประเทศปรับตัวดีขึ้นหลายภาคส่วน และการถือครองรถยนต์ในโครงการรถคันแรกทยอยครบ 5 ปี ทำให้มีความต้องการเปลี่ยนรถใหม่มากขึ้น ส่วนยอดส่งออกยังสามารถเติบโตได้ราว 4%

ส่วนในไตรมาส 2/61 มองว่าผลประกอบการของ SAT จะยังคงเติบโตได้ค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/60 รับผลบวกของยอดผลิตรถยนต์ที่ปรับดีขึ้น รวมถึงเริ่มรับรู้รายได้อย่างเต็มที่สำหรับคำสั่งซื้อใหม่ ทั้งชิ้นส่วนสำหรับรถกระบะและ Big Truck ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับ SAT ได้ราว 370 ล้านบาท และอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นจากประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้นและการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้นด้วย แต่อย่างไรก็ตาม กำไรอาจจะปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/61 เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่นที่มีวันหยุดมาก

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า กำไรปกติของ SAT ในปีนี้จะทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 874 ล้านบาท เติบโตสูงสุดของกลุ่มที่ 25% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มยานยนต์ภายใต้การวิเคราะห์ของหยวนต้าฯ ที่คาดเติบโตเฉลี่ย 19% ซึ่งเป็นผลมาจากยอดผลิตรถยนต์ของอุตสาหกรรมเติบโต 6% ขณะที่ลูกค้ารายใหญ่ของ SAT อย่างคูโบต้าเพิ่มกำลังการผลิตถึง 14% เป็น 75,000 คัน

แต่อย่างไรก็ตาม SAT อาจจะได้รับผลกระทบในเชิงของรายได้ราว 1,300 ล้านบาท เนื่องจากการขายหุ้นบริษัทย่อย อย่างบริษัท บางกอกสปริงอินดัสเตรียล จำกัด (BSK) ออกไปในปี 60 ที่ผ่านมา โดย BSK เป็นธุรกิจให้รายได้สูงแต่มาร์จิ้นต่ำ ซึ่งหากตัดผลดังกล่าวรายได้ปีนี้จะยังเติบโต 10% และอัตรากำไรขั้นต้นขยับขึ้นเป็น 18% จากปีก่อนที่ 15.5%

ขณะที่มองว่าผลประกอบการไตรมาส 2/61 แม้ว่าจะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นแต่ยังสามารถเติบโตได้เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 2/60 โดยล่าสุดเดือน เม.ย.ยอดผลิตรถยนต์ของประเทศขยายตัว 12% อีกทั้ง SAT ได้รับคำสั่งซื้อ"ชิ้นส่วนเพลาข้าง"สำหรับรถบรรทุกเข้ามาอีก 60 ล้านบาท/ปี

ส่วนครึ่งหลังปีนี้คาดรายได้จะสูงกว่าครึ่งปีแรก จากคำสั่งซื้อใหม่งานหล่อของลูกค้า GHN มูลค่าราว 300 ล้านบาท/ปี จะทยอยรับรู้รายได้ในครึ่งปีหลัง

ด้าน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/61 ของ SAT จะยังอยู่ในเกณฑ์ดีเบื้องต้นประเมินกำไร 180-200 ล้านบาท ชะลอตัวลงจากไตรมาสแรกที่มีกำไร 235 ล้านบาท เนื่องจากมีวันหยุดหลายวันในช่วงเทศกาล แต่จะเติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 135 ล้านบาท โดยได้รับแรงหนุนจากอุตสาหกรรมรถยนต์ไตรมาส 2/61 จะยังโตประมาณ 7-8%

ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับประมาณการของผู้บริหาร SAT ซึ่งอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้จะยกระดับขึ้นมาเป็น 18% รวมถึงอุตสาหกรรมรถยนต์ที่โตดีกว่าคาดการณ์ จึงได้ปรับประมาณการกำไรปีนี้เพิ่มขึ้น โดยมีประเมินยอดขาย 8,190 ล้านบาท ติดลบ 5% จากการโอนธุรกิจ BSK ออกไป ทำให้ยอดขายหายไป 13-15% และคาดจะมีกำไรสุทธิเท่ากับ 898 ล้านบาท โต 11% ซึ่งหากไม่รวมรายการพิเศษกำไรปกติจะโตถึง 25%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ