นายเอก สุวัฒนพิมพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีลิค คอร์พ (SELIC) กล่าวว่า บริษัทคาดยอดขายในไตรมาส 2/61 จะเติบโตดีกว่าไตรมาส 1/61 และช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ปกติครึ่งปีแรกจะเป็นช่วงโลซีซั่นของธุรกิจ แต่บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์ในการกระจายสินค้าได้ดีขึ้น ประกอบกับเน้นการให้บริการหลังการขายแก่ลูกค้า
ขณะที่บริษัทเชื่อมั่นว่าครึ่งปีหลังยอดขายจะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก จากการผลักดันยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในส่วนของตลาดในประเทศ ช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ขยายตลาดเข้าไปยังกลุ่มลูกค้าเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งมีการเติบโตได้ค่อนข้างดี ขณะที่ตลาดต่างประเทศ จะมุ่งเน้นการขายสินค้าให้กับประเทศมีที่เศรษฐกิจเติบโตดี เช่น เวียดนาม ที่ได้เริ่มส่งสินค้าเข้าไปจำหน่ายบ้างแล้ว
ดังนั้น บริษัทจึงมั่นใจว่าปีนี้ผลประกอบการจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยจะมีสัดส่วนรายได้มาจากยอดขายในประเทศ 60% และต่างประเทศ 40% พร้อมทั้งจะรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ 22-26% จากการเน้นบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบ
"เรายังคงเป้ายอดขายในปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากการผลักดันยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยคิดเป็นสัดส่วนยอดขายในประเทศจะอยู่ที่ 60% และต่างประเทศ 40% ซึ่งเรามีนโนบายคงสัดส่วนของต่างประเทศไว้ที่ 40-50% เพื่อเป็นการป้องกันผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากบริษัทไม่สามารถป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงินได้ทั้ง 100%"นายเอก กล่าว
นายเอก ยังเปิดเผยอีกว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการเข้าลงทุนในลักษณะการร่วมลงทุน (JV) และการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ในธุรกิจที่สามารถเข้ามาต่อยอดธุรกิจเดิม คาดว่าจะสรุปผลการศึกษาว่าเหมาะสมจะเข้าลงทุนหรือไม่ และต้องใช้เงินลงทุนเท่าใดภายในปีนี้ โดยขณะนี้บริษัทมีการเจรจากับธุรกิจดังกล่าว 1-2 ราย
ขณะเดียวกันบริษัทยังคงมองหาพันธมิตรในลักษณะคู่ค้าเพื่อขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่องด้วย
ขณะที่บริษัทฯ วางงบลงทุนด้านวิจัยและพัฒนา (R&D) ไว้ที่ 3-5% ของรายได้ เพื่อพัฒนาโปรดักซ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้คาดว่าจะออกโปรดักซ์ใหม่เพิ่มเติมอีกจำนวน 2 โปรดักซ์ ส่วนการลงทุนด้านการขยายกำลังการผลิต ปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิตยู่ที่ 9 พันตัน/ปี และมีอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 70% ซึ่งยังเพียงพอต่อออเดอร์ใหม่ที่จะเข้ามาเพิ่มมากขึ้น