นางสาวศุภมาส อิศรภักดี ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บมจ.ดีโอดี ไบโอเทค (DOD) กล่าวว่า การลงทุนในโรงงานสกัดวัตถุดิบ (โรงที่ 2) เพื่อสกัดสารสกัดซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รวมถึงการสกัดเพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกนั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเขียนแบบร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อให้ได้มาตรฐานตามที่กำหนดไว้ โดยคาดว่าจะสามารถเขียนแบบแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน ก่อนจะเริ่มก่อสร้างโรงงานเพื่อรองรับความต้องการลูกค้าในจีนและญี่ปุ่น โดยบริษัทคาดว่าจะสามารถเริ่มรับรู้รายได้ภายในปี 63 รองรับความต้องการลูกค้าในจีนและญี่ปุ่นนั้น
"ปัจจุบันในประเทศไทยยังไม่มีการสกัดสารเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ ซึ่งถ้าเราทำได้จะเป็นเอกชนรายใหญ่ เนื่องจากคู่แข่งน้อย จากเดิมในไทยมีเพียงการบดวัตถุดิบเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศเพื่อสกัด และนำเข้าสารสกัดมาอีกที เบื้องต้นมีการ survey ตลาดสารสกัดที่นิยมในต่างประเทศ และศึกษาราคาขายแล้ว"นางสาวศุภมาส กล่าว
นางสาวศุภมาส กล่าวว่า ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาลูกค้ารายใหญ่จำนวน 5 ราย โดยมีคำสั่งซื้อรายละไม่ต่ำกว่า 1 แสนกล่อง คาดว่าจะสรุปการเจรจาได้ภายในปี 61 โดยจะผลิตเพื่อส่งสินค้า รอรับรู้รายได้ต่อไปในอนาคต ซึ่งปัจจุบันบริษัทใช้กำลังการผลิตในโรงงานเดิมราว 60% จากกำลังการผลิตรวม 1.5 ล้านกล่อง/เดือน
นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อตอบสนองกลุ่มผู้สูงอายุที่มุ่งเน้นการมีสุขภาพที่ดี ซึ่งเป็นตลาดที่ค่อนข้างใหญ่และมีกำลังซื้อค่อนข้างสูง โดยคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในปี 62
ทั้งนี้ บริษัทมุ่งเน้นการทำธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูง โดยตั้งเป้ารักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 50% จากธุรกิจเดิมที่มีคู่แข่งค่อนข้างน้อย ประกอบกับมีการบริหารต้นทุนที่ดี ซึ่งบริษัทจะไม่แข่งขันด้านราคาขาย แต่บริษัทมีมาตรฐานการผลิตที่สูงกว่ามาตรฐานโรงงานผลิตอาหารเสริม (over standard) ทำให้ได้เปรียบคู่แข่งในตลาด