TOG ลดเป้ารายได้เหลือใกล้เคียงปีก่อน รับผลกระทบบาทแข็ง ,จับมือพันธมิตรผลิต-จำหน่ายเลนส์เฉพาะบุคคลเพิ่มสัดส่วนรายได้ในปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 20, 2018 16:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธรณ์ ประจักษ์ธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยออพติคอล กรุ๊ป (TOG) กล่าวว่า บริษัทปรับลดเป้าหมายรายได้ปีนี้เหลือทำได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท จากเดิมที่คาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโต 5% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาก ส่งผลให้รายได้จากการขายในรูปสกุลเงินบาทลดลง โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศประมาณ 95% และในประเทศ 5%

ทั้งนี้ บริษัทได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินงาน โดยได้มุ่งเน้นการขยายธุรกิจในรูปแบบการร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งเกร่งเพื่อจะช่วยสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง และลดความเสี่ยงที่เกิดจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยล่าสุดบริษัทได้จับมือกับ Tokai Optical จากประเทศญี่ปุ่น และ บริษัท นำศิลปไทย จำกัด ในการนำเทคโนโลยีของ Tokai เข้ามาผลิตเลนส์เฉพาะบุคคล หรือเลนส์โปรเกรสซีฟ โดยให้ TOG เป็นฐานการผลิตนอกประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก และให้นำศิลปไทย เป็นผู้จำหน่ายเลนส์เฉพาะบุคคลในประเทศไทย ที่มีชื่อทางการค้าว่า Flexia และ Neurona

บริษัทคาดหวังว่า การร่วมมือกันในครั้งนี้จะช่วยผลักดันสัดส่วนรายได้จากในประเทศให้เติบโตมากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายจะมีสัดส่วนรายได้ในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 10% ภายใน 3 ปี (ปี 61-63) จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 5% ขณะเดียวกันก็คาดว่าจะสามารถสร้างฐานลูกค้าธุรกิจในกลุ่มผู้จัดจำหน่ายเลนส์เฉพาะบุคคลได้เพิ่มขึ้น และทำให้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจเลนส์เฉพาะบุคคลเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับ 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 35-40%

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาบริษัทได้มีการลงทุนขยายกำลังการผลิตในส่วนของการผลิตเลนส์เฉพาะบุคคลด้วยระบบอัตโนมัติ "Rx Automation" โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 450 ล้านบาท ซึ่งทำให้กำลังการผลิตดังกล่าวเพิ่มขึ้นอีก 8,000 ชิ้น/วัน หรือคิดเป็นประมาณ 2 ล้านชิ้น/ปี ส่งผลทำให้กำลังผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 22 ล้านชิ้น/ปี

อย่างไรก็ตาม บริษัทก็อยู่ระหว่างศึกษาการขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติมอีก หรือเป็น 10,000 ชิ้น/วัน คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปี 62 เพื่อรองรับความต้องการเลนส์เฉพาะบุคคลที่เพิ่มขึ้น และความสามารถในการจำหน่ายที่ทำได้ดีขึ้น ประกอบกับเพื่อลดต้นทุนค่าแรง ซึ่งน่าจะเห็นการใช้เครื่องจักรอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้นในปี 63 เป็นต้นไป

สำหรับภาพรวมตลาดเลนส์แว่นตาไทย ปัจจุบันมีมูลค่ามากกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราเติบโตเฉลี่ยที่ 3-5% ต่อปี โดยเลนส์แว่นตาผู้สูงอายุ หรือเลนส์โปรเกรสซีฟ มีอัตราการเติบโตสูง หรือคิดเป็น 25% ของมูลค่าตลาดรวม เนื่องจากจำนวนประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และไทยกำลังจะเข้าสู่สังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์ในปี 64 ทำให้ยอดขายผลิตภัณฑ์เลนส์ Tokai ในตลาดประเทศไทยเติบโตโดยเฉลี่ย 41% ต่อปีใน 5 ปีที่ผ่านมา

นายธรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการร่วมมือกับพันธมิตรดังกล่าวแล้ว บริษัทยังมีแผนร่วมมือกับร้านหอแว่น เพื่อผลิตเลนส์เฉพาะในรูปแบบใหม่ ๆ ให้กับทางร้านหอแว่นแต่เพียงผู้เดียว คาดว่าในเดือนก.ค.นี้ จะเห็นถึงความร่วมมือดังกล่าวได้

ด้านนาย Hirokazu Furuzawa ประธานบริษัท Tokai Optical กล่าวว่า Tokai ได้เห็นโอกาสจากธุรกิจเลนส์โปรเกรสซีฟในไทยที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างมากในอนาคต การสร้างฐานผลิตและศูนย์กระจายสินค้าในไทยถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดนี้ ทั้งในด้านการลดต้นทุนการผลิตและระยะเวลาการจัดส่งสินค้าจากผู้ผลิตจนถึงผู้บริโภคที่สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การดำเนินธุรกิจของ Tokai ที่ให้ความไว้วางใจฐานการผลิตนอกบริษัท Tokai การทำงานร่วมกันเชิงยุทธศาสตร์ระหว่าง Tokai, นำศิลปไทย และ TOG ในครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น Tokai ยังมองหาโอกาสที่จะก้าวสู่ความร่วมมือที่มากขึ้นในตลาดโลกอีกด้วย

นายยศนันท์ ประจักษ์ธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท นำศิลปไทย จำกัด กล่าวว่า บริษัทจะนำผลิตภัณฑ์เลนส์เฉพาะบุคคลที่มีชื่อทางการค้าว่า Flexia และ Neurona ออกสู่ตลาดประเทศไทยในเดือนก.ค.61 และคาดว่าผลิตภัณฑ์ทั้งสองจะทำให้ยอดขายผลิตภัณฑ์เลนส์ Tokai เติบโตเพิ่มขึ้น 90% ในปี 61


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ