ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,645.27 จุด ลดลง 18.99 จุด (-1.14%) มูลค่าการซื้อขาย 26,652.80 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,664.97 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,640.60 จุด
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงมากกว่าที่คิดไว้ เนื่องจากยังมีปัจจัยลบที่มีผลต่อตลาดฯอยู่ ทำให้นักลงทุนอยากที่จะลด Position ลง เมื่อราคาหุ้นปรับตัวขึ้นก็เลยมีแรงขายออกมา
นอกจากนี้ ตลาดฯยังมีแรงกดดันจากเรื่องที่ฟิลิปปินส์ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินด้วย เพื่อควบคุมกระแสเงินทุนไหลออก แต่บ้านเราตัวเลขส่งออกของไทยก็ออกมาดีกว่าตลาดคาด และเงินเฟ้อก็ยังต่ำ ทำให้บ้านเรายังแข็งแกร่ง ดังนั้นการถูกโจมตีเรื่องค่าเงินคงจะเกิดขึ้นได้น้อย ขณะที่ฟิลิปปินส์โดนถล่ม
อนึ่ง ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืนอีก 0.25% สู่ระดับ 3.5% ในการประชุมครั้งล่าสุด ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยติดต่อกันเดือนที่ 2 โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดการไหลออกของเงินทุน และควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
นายประกิต กล่าวต่อว่า ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดย Emerging Market ส่วนใหญ่จะติดลบกัน
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายประกิต กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสที่จะลดช่วงลบลงได้ และคาดว่าดัชนีฯน่าจะยืนเหนือระดับ 1,650 จุดได้ด้วย พร้อมให้แนวรับ 1,640 จุด ส่วนแนวต้าน 1,660 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,052.92 ล้านบาท ปิดที่ 48.00 บาท ลดลง 0.75 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,294.87 ล้านบาท ปิดที่ 81.00 บาท ลดลง 2.75 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,237.79 ล้านบาท ปิดที่ 76.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,166.43 ล้านบาท ปิดที่ 64.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,052.37 ล้านบาท ปิดที่ 130.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท