นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เติบโตและขยายโอกาสการลงทุนต่อเนื่อง โดยมีจำนวน บจ. ที่ลงทุนทางตรงในต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยภูมิภาคที่มีสถานะลงทุนสูงสุด ได้แก่ อาเซียน และกลุ่มประเทศ CLMV สะท้อนให้เห็นถึงการเชื่อมโยงการลงทุนของ บจ. ไทยในการดำเนินธุรกิจและเห็นถึงโอกาสการลงทุนในภูมิภาคที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ในปี 60 บจ. ขนาดใหญ่ยังมีการลงทุนต่อเนื่อง แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ บจ. ขนาดเล็กมีการลงทุนที่เพิ่มขึ้นด้วย
ล่าสุด สถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดทำบทวิจัย "การลงทุนทางตรงในต่างประเทศของบริษัทจดทะเบียนไทย ปี 2560" พบว่า บจ. ใน SET จำนวน 226 บริษัทมีการลงทุนในต่างประเทศ เพิ่มขึ้นจาก 214 บริษัท ขณะที่ บจ. mai มีจำนวน 41 บริษัท เพิ่มขึ้นจาก 35 บริษัทจากปี 59 (คิดเป็น 38% ของ บจ. ทั้งหมด)
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนที่เพิ่มขึ้นของ บจ. ขนาดเล็ก (SET301+) ที่เพิ่มเป็น 72 บริษัท จาก 57 บริษัทในปีก่อน และ บจ. ใน mai ที่มีการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้น (ข้อมูล ณ สิ้นปี 60) แสดงให้เห็นว่าธุรกิจขนาดเล็กมีการปรับตัวโดยใช้กลยุทธ์ในการกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศ
ปี 60 บจ.ใน SET มีมูลค่าเงินลงทุนทางตรงในต่างประเทศสุทธิ 1.27 แสนล้านบาทลดลงจากปีก่อน โดยเป็นการลดลงของบริษัทในกลุ่ม SET50 เป็นหลัก ในขณะที่มูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศของบริษัทในกลุ่ม SET301 และ บจ.ใน mai เพิ่มขึ้น โดย บจ. mai มีมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ 6.2 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าที่ผ่านมาการลงทุนทางตรงในต่างประเทศจะเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบให้การลงทุนในประเทศลดลงแต่อย่างใด โดยสัดส่วนการลงทุนของ บจ. ขนาดใหญ่ในกลุ่ม SET50 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาในประเทศสูงกว่าการลงทุนในต่างประเทศ 2.5-3.7 เท่า