หุ้น DTAC ราคาร่วงลง 5.23% มาอยู่ที่ 36.25 บาท ลดลง 2.00 บาท มูลค่าซื้อขาย ล้านบาท เมื่อเวลา 11.57 น. โดยเปิดตลาดที่ 37.75 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 38 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 36 บาท
วานนี้ (21 มิ.ย.)หุ้น DTAC ปิดที่ 38.25 บาท ลดลง 5 บาท (-11.56%)
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า ราคาหุ้นกลุ่มโทรศัพท์มือถือปรับลงแรงวานนี้ โดยเฉพาะ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ที่ปรับลงไปถึง -12%d-d มาจากความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนใบอนุญาตกลับมาอีกครั้ง หลังจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะนำคลื่น 1800 MHz กลับมาประมูลอีกรอบพร้อมกับคลื่น 900 MHz ด้วยเงื่อนไขการประมูลเดิม (ราคาตั้งต้นที่ราว 37,457 ลบ.สำหรับคลื่น 1800 MHz และ 37,988 ลบ.สำหรับคลื่น 900 MHz) โดยคงกรอบระยะเวลาประมูลเดิม (วันที่ 4 ส.ค.61 สำหรับคลื่น 1800 MHz และ 10 ส.ค.61 สำหรับคลื่น 900 MHz)
นอกจากนั้น กสทช.ยังส่งหนังสือแจ้ง DTAC เร่งโอนย้ายฐานผู้ใช้บริการภายใต้สัมปทานเดิมราว 430,000 เลขหมายไปยังระบบใบอนุญาต (DTN 2100 MHz, 2300 MHz) เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องก่อนสัญญาสัมปทานจะสิ้นสุดลงในเดือน ก.ย.61 ทำให้นักลงทุนบางส่วนเริ่มกังวลมากขึ้นจากการที่รัฐอาจไม่ประกาศเยียวยาให้แก่ลูกค้า DTAC ที่ใช้งานภายใต้โครงข่ายสัมปทาน
DTAC น่าจะกระทบมากสุดจากประเด็นข้างต้น ทั้งนี้ แม้ DTAC จะระบุว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตัดสินใจไม่เข้าประมูลรอบนี้คือ ต้นทุนใบอนุญาตที่แพง และประเมินมีความเป็นไปได้ที่ DTAC อาจยังตัดสินใจไม่เข้าร่วมประมูลรอบใหม่ (เบื้องต้น กสทช.คาดจะเปิดให้เอกชนรับเอกสารเข้าประมูลได้ในวันที่ 26 มิ.ย.61)
และหากยังไม่มีการประกาศเยียวยาที่ชัดเจนภายในเดือน ก.ย.61 อาจจะมีผลกระทบโดยตรงต่อผู้ใช้งานคลื่น 2G-1800 MHz (เบื้องต้นคาดมี 2-3 ล้านราย) และคลื่น 3G-850 MHz ที่อยู่นอกรัศมีการให้บริการคลื่น 3G/4G 2100 MHz ของ DTAC ทำให้ DTAC มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกแย่งลูกค้าในระหว่างการเปลี่ยนถ่ายให้บริการไปคลื่น 2100/2300 MHz ดังนั้น จึงมีมุมมองเชิงลบมากขึ้นต่อแนวโน้มการเติบโตของผลการดำเนินงาน DTAC ในระยะยาว