นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บมจ.ไวส์ โลจิสติกส์ (WICE ) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงมองหาพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ที่มีวิสัยทัศน์ตรงกันเพิ่ม เพื่อเสริมศักยภาพธุรกิจโลจิสติกส์ร่วมกัน ด้วยวิธีการซื้อกิจการ หรือ Joint Venture เพื่อต่อยอดการเติบโตแบบ Inorganic ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต พร้อมกับเตรียมศึกษาโมเดลเส้นทางการขนส่งข้ามชายแดน (Cross Border) ตามเส้นทาง One Belt One Road ของจีน ที่เป็นจุดเด่นและแรงขับเคลื่อนการค้าระหว่างประเทศของจีนในอนาคต
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตร 2-3 รายเพื่อเข้าร่วมทุนขยายงานธุรกิจโลจิสติกส์เพิ่มเติมในต่างประเทศ โดยจะเน้นประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหลัก คือ สิงคโปร์ มาเลเซีย กัมพูชา และ เวียดนาม รวมถึงจีน เพื่อเพิ่มศักยภาพและขยายบริการให้ครอบคลุมพื้นที่ในเอเชีย คาดว่าจะมีความชัดเจนอย่างน้อย 1 รายในช่วงครึ่งปีหลัง เบื้องต้นตั้งงบลงทุนราว 200 ล้านบาท
ปัจจุบันบริษัทมีแหล่งเงินทุนเพียงพอในการลงทุน โดยคาดว่าจะใช้เงินทุนจากการดำเนินงาน (working cap) เป็นหลัก ซึ่งบริษัทมีกระแสเงินสดในมือราว 200 ล้านบาท แต่หากเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ บริษัทก็มีความพร้อมที่จะใช้เครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ อาทิ การกู้ยืมสถาบันการเงิน หรือการออกหุ้นกู้
สำหรับทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ซึ่งความต้องการงานโลจิสติกส์ในปีนี้มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากปริมาณการค้าระหว่างประเทศมีการขยายตัวตามการเติบโตของเศรษฐกิจโลก อีกทั้งยังได้รับผลดีจากการลงทุนเพื่อขยายภาคการผลิตเดิม การย้ายฐานการผลิต และการลงทุนด้านอีคอมเมิร์ซ ที่เข้าสู่ประเทศในกลุ่มภูมิภาคอาเซียน
กลยุทธ์และแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทยังคงเดินหน้าขยายงานขนส่งทุกช่องทางทั้งการขนส่งทางทะเล ทางอากาศ และการให้บริการด้านโลจิสติกส์ โดยมีปริมาณงานเพิ่มขึ้นทุกช่องทางจากฐานลูกค้าเดิม และบริษัทยังคงเดินหน้าขยายฐานลูกค้าในส่วนของการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศแบบ Door-to-Door พร้อมกับร่วมพัฒนาและโปรโมทงานขนส่งทางอากาศ เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ร่วมกันกับ Sun Express Logistics Pte. Ltd. (SEL) ประเทศสิงคโปร์ ปัจจุบัน SEL มีปริมาณงานเพิ่มสูงขึ้นทั้งจากลูกค้าเดิมและรายใหม่
ส่วนดีลระหว่าง Universal Worldwide Transportation Limited (UWT) ประเทศจีนและฮ่องกง WICE ได้เริ่มถ่ายโอนงานจากซัพพลายเออร์เดิมในประเทศจีนให้กับ UWT ในช่วงไตรมาส 2 แล้วประมาณ 20% คิดเป็นมูลค่า 20 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามแผนงานที่บริษัทได้วางไว้ตั้งแต่เข้าซื้อกิจการ และบริษัทยังทยอยโอนงานให้ UWT เพิ่มมากขึ้นตามลำดับในช่วงครึ่งปีหลังไม่น้อยกว่า 50 % ของปริมาณงานทั้งหมด หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท
นายชูเดช กล่าวต่อไปว่า บริษัทยังคงเชื่อมั่นว่ารายได้รวมของบริษัทปีนี้จะสร้างสถิติการเติบโตสูงสุดต่อเนื่อง เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% หรือ อยู่ที่ประมาณ 1,800 ล้านบาทตามเป้าที่ตั้งไว้ ปัจจัยสนับสนุนมาจากกลยุทธ์ขยายธุรกิจแบบ Organic จากการเพิ่มปริมาณงานบริการทุกช่องทาง และการเติบโตแบบ Inorganic ด้วยการต่อยอดธุรกิจร่วมกันระหว่าง WICE , SEL และ UWT มุ่งเน้นการขยายปริมาณงานในประเทศจีนและฮ่องกง
อีกทั้งบริษัทได้ป้องกันความเสี่ยงเรื่องค่าเงินมากขึ้น โดยการจองสัญญาซื้อหรือขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Forward Contract) พร้อมทั้งมีมาตรการภายในไม่เก็บเงินสกุลดอลลาร์ และทบทวนสัญญาลูกค้าเดิม ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทในปีนี้คาดว่าสูงขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 24-25%
ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้ของ WICE แบ่งเป็นรายได้จากขนส่งทางทะเล 37%, รายได้จากขนส่งทางอากาศ 42% และรายได้จากการให้บริการด้านโลจิสติกส์ 21 %