(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ดีดตัวทดสอบแนวต้าน 1,645 จุด รับแรงหนุนราคาน้ำมันขึ้น-Window Dressing

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 25, 2018 09:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบบริเวณแนวต้าน 1,645 และ 1,650 จุด หลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นแรงเมื่อวันศุกร์ ส่งผลต่อการลงทุนในหุ้นกลุ่มน้ำมันทั้ง PTT และ PTTEP ซึ่งมีผลต่อดัชนี ผนวกกับตลาดยังได้รับ Sentiment จากการทำราคาปิดสิ้นงวดบัญชี (Window Dressing) ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของไตรมาส 2/61 ที่ตามสถิติ 5 ปีที่ผ่านมาในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมิ.ย. มีการทำ Window Dressing ทำให้ดัชนีปรับขึ้น ยกเว้นเพียงปีเดียวที่ตลาดหุ้นไทยปรับลดลง

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมตลาดน่าจะเป็นลักษณะการตั้งรับมากกว่าการไล่ราคาหุ้น เนื่องจากยังมีปัจจัยจากต่างประเทศ ที่จะยังเป็นแรงกดดันอยู่ หลังตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนลบ ขณะที่ตลาดยังมีความกังวลต่อปัญหาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน และระหว่างสหรัฐฯและคู่ค้าประเทศอื่น ซึ่งน่าจะทำให้ตลาดหุ้นไทยยังมีจำนวนหุ้นที่ติดลบอยู่จำนวนมากและจะกดดันให้การปรับขึ้นของดัชนีอยู่ในกรอบจำกัด ขณะที่นักลงทุนต่างชาติแม้จะมีแรงขายในตลาดหุ้นไทยลดลง แต่ก็ยัง Short ในตลาดฟิวเจอร์สอยู่

พร้อมให้แนวรับที่ 1,628 และ 1,620 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,645 และ 1,650 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (22 มิ.ย.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,580.89 จุด เพิ่มขึ้น 119.19 จุด (+0.49%) ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,754.88 จุด เพิ่มขึ้น 5.12 จุด (+0.19%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,692.82 จุด ลดลง 20.14 จุด (-0.26%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 26.73 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 13.69 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 12.58 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 65.21 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 5.33 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 7.87 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 12.87 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 176.86 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 28.50 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (22 มิ.ย.61) 1,634.98 จุด เพิ่มขึ้น 0.54 จุด (+0.03%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 879.88 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (22 มิ.ย.61) ปิดที่ 68.58 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 3.04 ดอลลาร์ หรือ 4.6%
  • เงินบาทเปิด 32.97 แนวโน้มยังอ่อนค่าจากเงินไหลออก-กังวลสงครามการค้าขยายวงกว้าง
  • นักลงทุนสถาบันเริ่มหั่นเป้าดัชนีหุ้นไทย หลังสภาพคล่องการลงทุนลดลง ฟันธงตลาดสะท้อนปัจจัยเสี่ยงไปมากแล้ว เชื่อเป็นจังหวะดีทยอยลงทุนช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า ขณะค่ายประกันทยอยลดพอร์ต รอจังหวะเข้าลงทุนใหม่ ประเมินครึ่งปีหลังมีสัญญาณบวก ด้านนักวิเคราะห์เผยแรงซื้อสถาบันในประเทศเริ่มแผ่ว ด้าน ตลท.เตรียมปลุกตลาดทุนจัดไทยแลนด์โฟกัสชูไฮไลต์บริษัทไทยระดับโลกหวังดึงดูดนักลงทุนต่างชาติย้ำเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง
  • สมาคมโบรกเกอร์เตรียมหารือตลาดหลักทรัพย์ หาแนวทางรับมือระบบซื้อขายหุ้นอัตโนมัติ หลังเห็นสัญญาณรุนแรงกระทบภาพรวมตลาด และแนวโน้มการใช้โปรแกรมเทรดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้าน'เคจีไอ"ยันในส่วนของโบรกเกอร์ไม่เป็นปัญหา เพราะทางการคุมเข้ม
  • กระทรวงพลังงานและอุตสาหกรรมเร่งออกมาตรการยกระดับราคาปาล์มหวังรับมือการผลิตฤดูใหม่ในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า รมว.พลังงาน จ่อเปิดโครงการขายบี 20 ให้กลุ่มรถบรรทุก 2 ก.ค.นี้ ก.อุตฯพร้อมแล้วคุมเปอร์เซ็นต์โรงสกัดปาล์มทั้งแบบหีบแยกและหีบรวม ด้านเกษตรกรแนะให้ภาครัฐติดตามผลผลิตออกใหม่สุดท้ายผลประโยชน์จะตกถึงมือเกษตรกรจริงหรือไม่
  • รฟม.เล็งเปิดให้เอกชนร่วมทุน พัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง เตาปูน-บางใหญ่ รวม 16 สถานี แบ่งเป็น 3 เกรด อัตราเช่าประมาณ 1,000-1,200 บาท/ตารางเมตร/เดือน ปีนี้เริ่ม 8 สถานีหลักก่อนให้เอกชนรายย่อยเช่าระยะสั้น อายุสัญญาไม่เกิน 3 ปี
  • "เอกชนไทย" ขยายลงทุนนอกพุ่งแตะ 1.36 แสนล้านดอลลาร์ หรือ 4.4 ล้านล้านบาท พบปี 2560 เพิ่มกว่า 9.6 แสนล้านบาท โดยเฉพาะเงินลงทุน ทางตรงพุ่ง 23% ส่วนใหญ่ลงทุนในสหภาพยุโรปที่ขยายตัว 65% ขณะนักเศรษฐศาสตร์ประเมินธุรกิจไทยใหญ่เกินกว่าลงทุนในประเทศ
  • พาณิชย์-หอการค้า เปิดผลวิเคราะห์สงครามการค้าจีน-สหรัฐ ยันไม่สะเทือนไทย ดันตัวเลขส่งออกเพิ่มขึ้น ด้านเอกชนเห็นสัญญาณจีนย้ายฐานลงทุนมาไทยดัน EEC เกิด ลูกค้ากลุ่มใหม่โยกมาซื้อสินค้าไทยแทน กกร.จ่อปรับเป้าส่งออกโตทะลุ 8% กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์เตือนอย่าประมาทเครื่องใช้ไฟฟ้าจีนถล่มไทย
  • นักค้าเงิน ห่วงแรงเทขายสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดเกิดใหม่ ประเทศที่อ่อนแอจะเป็นเป้านิ่งถูกโจมตีเหมือนฟิลิปปินส์-อาร์เจนตินา จนนำไปสู่ EM contagion วิกฤติการเงิน ซ้ำรอยปี 2540 จี้แบงก์ชาติส่งสัญญาณนโยบายการเงินฟื้นฟูความเชื่อมั่นนักลงทุน ขณะที่"อนุสรณ์ ธรรมใจ"มองเงินบาทไทยยังมีความเสี่ยงต่ำที่จะถูกโจมตี เพราะมีทุนสำรองระหว่างประเทศในระดับสูง เงินเฟ้อต่ำและยังคงเกินดุลการค้าและเกินดุลบัญชีเดินสะพัด แต่ยังต้องเผชิญกระแสเงินทุนระยะสั้นไหลออกอีกระยะหนึ่ง อาจทำให้เงินบาทอ่อนค่าแตะระดับ 33.50-34.00 ในไตรมาสสาม

*หุ้นเด่นวันนี้

  • PTTEP (เอเอสแอล) แนะ"ซื้อ" ราคาเหมาะสม 155 บาท แนวโน้มราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวจากประเด็นปัจจัยการเพิ่มกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก และนอกโอเปกคลี่คลาย หลังผลการประชุมเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมามีการตกลงเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 7.7 แสนบาร์เรลต่อวัน ตามที่คาด ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่มองบวกสำหรับผลประกอบการใน Q2/61 จากราคาน้ำมันดิบเฉลี่ย Q2/61 QTD ที่ปรับเพิ่มมาราว 8%
  • SAPPE (โกลเบล็ก) แนะ"ซื้อ"ราคาเหมาะสม 31.34 บาท คาดช่วง Q2/61 จะได้รับประโยชน์สองต่อจากการที่เป็น High Season ของสินค้าประเภทเครื่องดื่ม และค่าเงินบาทที่อ่อนตัวมาถึง 32.96 บาท/ดอลลาร์ ต่อเนื่องจากช่วง 1Q61 บริษัทสามารถเติบโตได้โดดเด่นที่ 117 ล้านบาท +140% YoY โดยมีปัจจัยหลักจากยอดขายต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น
  • DTAC (กสิกรไทย) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 43.53 บาท มองเชิงบวกมากขึ้นต่อ DTAC เนื่องจาก 1) กสทช. ประกาศจัดประชุม 25 มิ.ย.61 เพื่อจัดประมูลคลื่น 900 MHz และ 2) DTAC ให้ความสนใจคลื่น 900 MHz ทั้ง 2 ปัจจัยทำให้สมมติฐาน Scenario 2 กลับมามีน้ำหนักอีกครั้ง นอกจากนี้ ราคาหุ้นได้ปรับลดลง 26% ช่วง 6 วันที่ผ่านมา สูงกว่ามูลค่าพื้นฐานกรณีที่แย่ที่สุดที่ 35.10 บาทอยู่เพียง 4% ทั้งนี้ เชื่อ กสทช. และความตั้งใจ DTAC จะเข้าประมูลคลื่น 900 MHz จะช่วยฟื้นฟูขีดความสามารถการแข่งขันและส่งผลเชิงบวกต่อราคาหุ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ