ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,636.91 จุด เพิ่มขึ้น 1.93 จุด (+0.12%) มูลค่าการซื้อขาย 19,966.12 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,646.37 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,636.60 จุด
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวด์ทางเทคนิค ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นแรง และความคาดหวังการทำราคาปิดสิ้นงวดบัญชี (Window Dressing) ขณะเดียวกันก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นบางตัว โดยเฉพาะในกลุ่มสื่อสาร เช่น DTAC เนื่องจากนักลงทุนมีคาดหวังว่า การประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในวันนี้จะมีความชัดเจนเรื่องของมาตรการเยียวยาคลื่น 1800 เมกะเฮิร์ตซ์ที่กำลังจะหมดอายุสัมปทาน ทำให้ราคาหุ้นฟื้นตัวขึ้น หลังจากราคาปรับตัวลงไปค่อนข้างมาก
ส่วนการปรับตัวลงไปของหุ้นกลุ่มแบงก์ น่าจะมีปัจจัยมาจากผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/61 ที่อาจจะออกมาดูไม่ดี โดยเฉพาะ SCB และ KBANK เนื่องจากได้รับผลกระทบในเรื่องของการยกเว้นค่าธรรมเนียม และยังมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนระบบดิจิทัล รวมถึงการตั้งสำรองหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ซึ่งประเมินว่าผลการดำเนินงานกลุ่มแบงก์ในไตรมาส 2/61 จะปรับตัวลดลง 8% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนยังมีการเติบโตได้ดี
สำหรับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายธนเดช กล่าวว่า แม้ว่าดัชนีฯ จะมีการปรับตัวขึ้นทางเทคนิค แต่ยังได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะสงครามทางการค้าระหว่างประเทศจีนและสหรัฐฯ รวมถึงแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ ทำให้ดัชนีฯอาจจะยังถูกจำกัดอยู่ พร้อมให้แนวต้านไว้ที่ 1,650 จุด และแนวรับที่ 1,635 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,369.18 ล้านบาท ปิดที่ 48.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,236.47 ล้านบาท ปิดที่ 124.50 บาท ลดลง 4.00 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,181.11 ล้านบาท ปิดที่ 80.00 บาท ลดลง 1.25 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 929.80 ล้านบาท ปิดที่ 132.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
GLOW มูลค่าการซื้อขาย 735.82 ล้านบาท ปิดที่ 94.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง