นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์ขึ้นตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกกัน เนื่องจากราคาน้ำมันขึ้นแรงทำให้น่าจะเข้ามาช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีได้ อีกทั้งยังคลายความกังวลระดับหนึ่งหลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯได้ออกมาบอกว่าจะยังไม่ใช้เกณฑ์การจำกัดการลงทุนกับจีน
นอกจากนี้ ยังมีความคาดหวังจะมีการทำ Window Dressing หุ้นบางตัวก่อนปิดงบการเงินไตรมาส 2/61 และคาดว่าหุ้นในกลุ่มธนาคารจะปรับตัวขึ้นดีได้ในช่วง Preview งบการเงิน แม้ว่างบการเงินจะไม่โดดเด่น แต่ราคาหุ้นได้ปรับตัวลงลึก อาจมีการเข้ามาซื้อเพื่อหวังรีบาวด์ก็ได้
อย่างไรก็ดี ตลาดฯคงจะไม่ไปไหนไกลตราบใดที่ยังมีสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนอยู่ ซึ่งยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมให้แนวรับ 1,615 จุด ส่วนแนวต้าน 1,636 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (26 มิ.ย.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,283.11 จุด เพิ่มขึ้น 30.31 จุด (+0.12%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,561.63 จุด เพิ่มขึ้น 29.62 จุด (+0.39%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,723.06 จุด เพิ่มขึ้น 5.99 จุด (+0.22%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 21.12 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 2.11 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 76.24 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 24.71 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 1.54 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 0.84 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.62 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (26 มิ.ย.61) 1,623.98 จุด เพิ่มขึ้น 1.70 จุด (+0.10%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 87.22 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (26 มิ.ย.61) ปิดที่ 70.53 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 2.45 ดอลลาร์ หรือ 3.6%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (26 มิ.ย.61) ที่ 4.04 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.00 อ่อนค่าจากวานนี้ตามทิศทางภูมิภาคจากแรงซื้อดอลล์หนุนดอลล์แข็ง
- พาณิชย์สั่ง 6 หน่วยงาน รับมือสงครามการค้า เผยกระทบส่งออกเครื่องซักผ้า-โซลาร์เซลล์ ยอด 5 เดือนแรกติดลบ 50% พร้อมรับมือป้องกันสินค้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ถั่วเหลือง ข้าวโพดไหลทะลักเข้าไทย ด้าน ส.อ.ท.ห่วงเหล็กจีนสวมไทยส่งไปสหรัฐ จี้กรมการค้าต่างประเทศติดตามใกล้ชิด
- สทท.เผยความเชื่อมั่นท่องเที่ยว ไตรมาส 2 วูบ ผู้ประกอบการกังวลแบกต้นทุนแรงงาน-น้ำมันเพิ่มซ้ำเทศกาลฟุตบอลโลก- ถือศีลอด-นักเรียนเปิดเทอม ส่งผลชะลอตัว ลุ้นเข้าไตรมาส 3 ปรับดีขึ้น ขณะผลสำรวจบิ๊กดาต้า ชี้เมืองรองขาดข้อมูล อุปสรรคต่างชาติเข้าถึง
- รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยผลการเดินทางชักจูงการลงทุน (โรดโชว์) ประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส ว่า มีบริษัทชั้นนำของทั้งสองประเทศสนใจจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยหลายราย โดยให้ความสนใจสอบถามการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งรถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ และเมืองอัจฉริยะ (สมาร์ทซิตี้) ล่าสุดบริษัท ทรานส์เดฟ และบริษัท เอสเอ็นซีเอเอฟ ประเทศฝรั่งเศส เตรียมจับมือกันเพื่อร่วมหารือกับบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง เพื่อเข้าร่วมประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เชื่อมโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ขณะที่บริษัท ทรานส์เดฟ ยังแสดงความสนใจเข้ามาตั้งสำนักงานในประเทศไทยเพื่อลงทุนในอนาคต
- รมว.คมนาคม เปิดเผยความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หนองคาย ว่า ขณะนี้กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างสรุปแนวทางด้านการจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อดำเนินโครงการตามเป้าหมายที่รัฐบาลไทยจะเป็นผู้ลงทุนโครงการเองทั้งหมด ล่าสุดได้เจรจากับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของสาธารณรัฐประชาชนจีน (China EXIM Bank) เพื่อสอบถามถึงตัวเลขเงินกู้ และการรับความเสี่ยงที่เหมาะสม แต่ทั้งนี้กระทรวงการคลังจะพิจารณาแหล่งเงินกู้และอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมที่สุด
- กลุ่ม BSR เตรียมเข้าพื้นที่ตอกเข็ม รถไฟฟ้า "ชมพู-เหลือง" ปลายก.ค.นี้ ระบุหลังรฟม.ส่งหนังสือให้เริ่มงานจะต้องส่งแบบและแผนจราจรให้อนุมัติก่อนคาดใช้เวลาอีก 1 เดือน ขณะที่ บีทีเอส เผยเจรจาพันธมิตรไทย-เทศ ร่วมทุนชิงรถไฟเชื่อม 3 สนามบินกว่า 2 แสนล้านบาท จบในส.ค.นี้
- ธนาคารพาณิชย์พลิกตัว เร่งหารายได้เสริมชดเชยเลิกค่าธรรมเนียม หันใช้กลไก 'แบงก์กิ้ง เอเยนต์' ด้านกสิกรไทยเปิดเกมรุกปั๊มน้ำมัน-ร้านสะดวกซื้อ จับผู้ซื้อทั่วประเทศ ส่วนไทยพาณิชย์เตรียมเข้าชิงต่อไป
*หุ้นเด่นวันนี้
- PDI-W1 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบมจ.ผาแดงอินดัสทรี (PDI)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 75,326,518 หน่วย ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาท/หน่วย อายุ 3 ปี อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิหุ้นละ 33 บาท กำหนดใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 15 พ.ย.61 และใช้สิทธิครั้งสุดท้าย วันที่ 14 พ.ค.64
- BANPU (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 25 บาท แนวโน้มผลประกอบการ Q2/61 คาดจะฟื้นตัวทั้งกำไรจากการดำเนินงาน หนุนโดยธุรกิจถ่านหินและโรงไฟฟ้า ขณะที่กำไรสุทธิได้ผลบวกจากรายจ่ายพิเศษตามคำสั่งศาลฯ ที่ไม่เกิดซ้ำ ขณะที่ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนคาดพลิกเป็นบวกจากขาดทุนในไตรมาสก่อน
- KTC (เคทีบี) "ซื้อ"เป้า 363 บาท ขยับจาก SET100 มาเป็น SET50 มีผล 1 ก.ค.61 และจะมีการประชุมผู้ถือหุ้น 6 ก.ค.61 เป็นพิจารณาอนุมัติเปลี่ยนแปลงราคาพาร์จาก 10 เป็น 1 บาท โดยมอง KTC เป็นหุ้นที่อิงกับการจับจ่ายใช้สอย ทั้งการซื้อขายผ่านร้านตามปกติ และ Online ที่โตต่อเนื่อง โดยประมานการกำไรสุทธิปี 61-62 ที่ 4.9 และ 5.4 พันล้านบาท โดยการปรับลดการตั้งสำรองในปี 61-62 ลง เพื่อสะท้อน coverage ratio ที่คาดจะลดลงจากการตั้งสำรองในอดีตที่สูง และเพียงพอต่อ TFRS9 พร้อมมองมีความสามารถติดตามหนี้ดีขึ้น ส่งผลให้ปรับเพิ่มรายได้หนี้สูญรับคืนในปี 61-62 ที่ 16% และ 6%
- IVL (เอเอสแอล) "ซื้อ"เป้า 75 บาท คาด Q2/61 โตเด่น โดยส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ PTA (PTA-(0.67*Px)) ล่าสุด สัปดาห์ก่อน ยังคงปรับเพิ่มทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องอยู่ที่ 172 เหรียญต่อตัน (+2%WoW //+ 35%MoM) ทำให้ส่วนต่างราคา PTA ในช่วง Q2/61QTD ปรับเพิ่ม 25%QoQ เป็นปัจจัยบวกต่อกำไรสุทธิ Q2/61 นอกจาก Spread ที่แข็งแกร่ง ยังคงมีแรงหนุนจาก Demand ที่ปรับเพิ่มตามฤดูกาล และทางจีนที่ยกเลิกการใช้พลาสติก Recycle พร้อมคาดหมายเห็น High Record ของ Core EBITDA Margin ใน Q2/61 ยังคงกำไรสุทธิปี 61 ไว้ที่ 2 หมื่นล้านบาท (+46%YoY)