PDI-W1 ปิดเทรดวันแรกที่ 2.08 บาท มูลค่าซื้อขาย 68.51 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 2.00 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 2.58 บาท และราคาลงต่ำสุด 1.96 บาท
ขณะที่หุ้น PDI ปิดที่ 17.00 บาท ลดลง 0.10 บาท (-0.58%) มูลค่าซื้อขาย 8.34 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 17.10 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 17.40 บาท และราคาลงต่ำสุด 16.90 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.ผาแดงอินดัสทรี (PDI) ครั้งที่ 1 ใช้ชื่อย่อว่า PDI-W1 ที่ 1.54 บาท (BSM) อิงราคาหุ้นแม่ที่ 17.10 บาท และความผันผวนของหุ้นที่ 42.4% คิดเป็น All-in Premium ที่ +106% ด้านต้นทุนของ PDI-W1 อยู่ที่ 4.35 บาท (ราคาหุ้นก่อนขึ้นเครื่องหมายอยู่ที่ 25.25 บาท และราคาหลังขึ้นเครื่องหมายที่ 22.30 บาท และขึ้นเครื่องหมาย XD เงินปันผล 1.50 บาท) เมื่อเทียบความน่าลงทุนของ PDI-W1 กับหุ้นแม่แล้วเรามองว่า ด้วยสถานะของใบสำคัญแสดงสิทธิที่ Out of The Money อยู่ถึง 49% และการจ่ายเงินปันผลของหุ้นแม่ที่ค่อนข้างสูง (ราว 3% ต่อปี) ทำให้เมื่อเทียบกันแล้วการลงทุนใน PDI จะมีความน่าสนใจมากกว่า
ในด้านปัจจัยพื้นฐาน PDI กำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนธุรกิจจากการทำเหมืองเป็นธุรกิจพลังงานทดแทนทำให้ เรามองผลประกอบการในระยะสั้นของ PDI อาจได้รับผลกระทบและกดดันราคาหุ้นได้
พร้อมให้กรอบมูลค่า PDI-W1 ไว้ที่ 1.44-1.72 บาท เมื่อราคาหุ้น PDI เคลื่อนไหวในกรอบ 16.70-17.70 บาท โดยมี Volatility 42% per year
PDI ธุรกิจเหมืองแร่และโรงถลุงแร่สังกะสีสำหรับผลิตโลหะสังกะสีแท่งบริสุทธิ์และโลหะสังกะสีผสม และอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างสู่ธุรกิจสีเขียวใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. พีดีไอ เอ็นเนอร์ยี ดำเนินธุรกิจจัดหาพลังงานจากแหล่งพลังงานทดแทน 2. พีดีไอ แมททีเรียล ดำเนินธุรกิจจัดหาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มจาการรีไซเคิล และ 3. พีดีไอ อีโค ดำเนินธุรกิจจัดหาวัตถุดิบจากของเสีย และบริหารจัดการของเสียที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
PDI-W1 จำนวนที่ออก 75 ล้านหน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 3 หุ้นเดิม : 1 หลักทรัพย์แปลงสภาพ อัตราใช้สิทธิ 1 : 1 @ 33.00 บาท, อายุ 3 ปี โดยสามารถใช้สิทธิได้ทุกวันที่ 15 ของเดือน พ.ค. และ พ.ย. (โดยใช้สิทธิได้ครั้งแรกในวันที่ 15 พ.ย. 2561 และครั้งสุดท้ายในวันหมดอายุวันที่ 28 พ.ค. 2564)