บมจ.เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ (CHOW) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.61 บริษัท พรีเมียร์ โซลูชั่น จำกัด (บริษัทย่อยที่บริษัท ถือหุ้นร้อยละ 100 ผ่าน บมจ.เชาว์เอ็นเนอร์ยี่ ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจ (Memorandum of Understanding) กับ Jetion Solar (Thailand) Co., Ltd. ผู้ผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์รายใหญ่ในประเทศจีนและประเทศไทย เพื่อขยายตลาดแผงเซลล์แสงอาทิตย์และอุปกรณ์ในประเทศญี่ปุ่น โดยเบื้องต้นกำหนดเป้าหมายจะส่งออกแผงเซลล์แสงอาทิตย์ประมาณ 100,000 แผง ในระยะเวลา 2 ปี นับจากวันลงนามในบันทึกข้อตกลง
นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานกรรมการบริหาร CHOW กล่าวว่า บริษัทเดินหน้าขยายของธุรกิจพลังงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับโอกาสทางธุรกิจที่เปิดกว้างขึ้น โดยเฉพาะในตลาดญี่ปุ่นมีแผนที่จะสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อีกมากกว่า 80,000 เมกะวัตต์
"การเซ็น MOU ครั้งนี้เป็นความร่วมมืออย่างเป็นทางการระหว่าง Jetion Solar (Thailand) ซึ่งเป็นผู้ผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์รายใหญ่ในประเทศจีน และ CHOW โดยบริษัทย่อย ในฐานะผู้ชำนาญและเชี่ยวชาญในตลาดประเทศญี่ปุ่น ซี่งได้จัดจำหน่ายสินค้าดังกล่าวในตลาดญี่ปุ่นมาแล้วอย่างต่อเนื่อง มียอดขายเติบโตมาโดยตลอด สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญในธุรกิจและการเติบโตของตลาดนี้ในประเทศญี่ปุ่นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งความร่วมมือระหว่างกันในครั้งนี้จะทำให้การขยายธุรกิจในตลาดญี่ปุ่นมีความคล่องตัวมากขึ้น หลังจากได้รับการสนับสนุนจากผู้ผลิตทั้งด้านราคา สินค้าและบริการ ซึ่งจะสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าของกลุ่มบริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ ในญี่ปุ่นได้มากขึ้นตามไปด้วย"
นายอนาวิล กล่าวอีกว่า ความร่วมมืออย่างเป็นทางการระหว่าง CHOW และ Jetion Solar (Thailand) ในครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการค้าเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายในอนาคตที่ CHOW มีเป้าหมายจะสร้างรายได้จากธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและครบวงจรในทุกผลิตภัณฑ์ ทั้งธุรกิจพัฒนาโรงไฟฟ้า ธุรกิจจำหน่ายแผงเซลล์แสงอาทิตย์และอุปกรณ์ ธุรกิจบริหารการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ธุรกิจขายไฟ และอื่นๆ
ปัจจุบัน CHOW มีโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น ที่สามารถจำหน่ายไฟได้แล้วรวมทั้งสิ้น 9โครงการ กำลังการผลิตรวม 59.03 เมกะวัตต์ และโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (Rooftop) ในประเทศไทยมีกำลังการผลิตรวม 6.64 เมกะวัตต์ ทำให้มีกำลังผลิตทั้งสิ้น 65.67 เมกะวัตต์
นอกจากนั้น บริษัทยังคงมองหาโอกาสการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการลงทุนในตลาด ที่ความต้องการใช้ไฟมีอัตราการเติบโตสูงและรัฐบาลมีนโยบายให้การสนับสนุน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามแผนธุรกิจ ที่จะเพิ่มยอดขายไฟในเชิงพาณิชย์ (COD) ให้ครบ 100 เมกะวัตต์ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งจะสะท้อนรายได้จากธุรกิจพลังงานให้เติบโตก้าวกระโดดอย่างมีนัยสำคัญตามเป้าหมายที่วางไว้