นางสาวนฤมล บุญสนอง กรรมการ สมาคมนักวางแผนการเงินไทย กล่าวในงานสัมมนา "Hot Issue เกาะติดทิศทางลงทุน จัดพอร์ตการลงทุนในช่วงหุ้นผันผวน" ว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงขาลงอย่างชัดเจนหลังจากที่ปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามปัจจุบันเป็นไปตาม Sentiment การลงทุนเท่านั้น โดยมองแนวรับสำคัญที่ 1,528 จุด หากไม่สามารถยืนอยู่ได้ คือเข้าสู่ภาวะของความตกใจ (Panic) กับสภาพตลาดที่เกิดขึ้นในขณะนี้
ทั้งนี้ จะเห็นว่าในช่วงที่มีวิกฤตเศรษฐกิจเกิดขึ้น หรือมีความตื่นตระหนกใด ๆ เกิดขึ้น ดัชนีจะมีการปรับตัวลดลงไปราว 400 จุด โดยปัจจุบันนักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์การเมืองในประเทศต่างๆ และติดตามเรื่องผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากสงครามทางการค้าระหว่างประเทศจีนและสหรัฐว่าจะมีผลกระทบต่อส่วนไดบ้าง มากน้อยเพียงได
"การปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมาเป็นเพียง Sentiment การลงทุนที่เสียไปจากสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศมหาอำนาจ แต่อย่างไรก็ตามยังไม่ถึงขั้นตื่นตระหนกเหมือนกับช่วงที่เกิดวิกฤตในช่วงที่เคยผ่านๆมา และทำให้ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลงอย่างหนัก โดยตอนนี้ให้มองที่แนวรับสำคัญคือ 1,528 จุด"นางสาวนฤมล กล่าว
นางสาวนฤมล แนะนำกลยุทธ์การลงทุนให้เน้นการบริหารจัดการพอร์ตการลงทุน โดยให้แบ่งเป็นสัดส่วน 30% ลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว, 50% ถือเงินสด และอีก 20% ให้ลงทุนในหุ้น โดยให้มีการปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งปัจจุบันแนะนำให้ทยอยเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้น ลดสัดส่วนการถือเงินสด ภายใต้กลยุทธ์ทยอยซื้อหุ้นในช่วงเลวร้าย ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
"ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยดีทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขของการส่งออก การท่องเที่ยว หรือจะตัวเลขเศรษฐกจิด้านอื่นๆด้วยก็ตาม แต่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงทุกวันอาจจะเป็นเพราะ Sentiment การลงทุนที่ไม่ดีนัก แต่อย่างไรก็ตามพื้นฐานของประเทศยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เราจึงแนะนำว่าให้ทยอยลงทุนหากดัชนีปรับตัวลดลง และอาจจะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นให้มากขึ้น"นางสาวนฤมล กล่าว
ทั้งนี้ แนะนำให้นักลงทุนเลือกหุ้นที่มีน้ำหนักต่อตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก หากดัชนีจะปรับตัวขึ้นนั้นจะต้องมาจากหุ้นที่มีขนาดใหญ่เป็นตัวนำตลาด โดยต้องเป็นหุ้นที่ให้ปันผลดีสม่ำเสมอ และเป็นหุ้นที่จะไม่ล่มสลายไป อาทิ PTT, AOT, CPALL, ADVANC, PTTEP, SCC, KBANK, SCB, BDMS, BBK และ PTTGC