บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือเอไอเอส ระบุว่าลูกค้ากล่อง AIS PLAYBOX สามารถรับชมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ได้ตามปกติ หลังเมื่อวานนี้ (3 ก.ค.) ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ได้แจ้งเพิ่มเติมกับบริษัท ซุปเปอร์ บรอดแบนด์ เน็ทเวอร์ค จำกัด (SBN) บริษัทในเครือเอไอเอส ว่าสามารถถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลบอลโลก 2018 ผ่านทางกล่อง AIS PLAYBOX ได้ หลังจากก่อนหน้านี้ได้มีคำสั่งให้ SBN ยุติการเผยแพร่รายการฟุตบอลโลก 2018 ผ่านทางแอพพลิเคชัน AIS PLAY และแอพพลิเคชันอื่น ๆ ตามที่ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป บริษัทในกลุ่มบมจ.ทรูคอร์ปอเรชั่น (TRUE) ได้ร้องขอต่อศาลฯไว้ ส่งผลให้แอพฯ AIS PLAY และกล่อง AIS PLAYBOX ไม่สามารถรับชมการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.เป็นต้นมา
ด้วยเหตุนี้ SBN จึงน้อมรับปฏิบัติตามศาลฯ โดยเมื่อวานนี้ลูกค้าที่รับชมผ่านกล่อง AIS PLAYBOX ซึ่งมีสมาชิกอยู่ประมาณกว่า 4 แสนรายที่ชื่นชอบฟุตบอล จะสามารถรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 ได้ตามปกติ จึงทำให้กล่อง AIS PLAYBOX สามารถปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เรื่อง หลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป (ประกาศ Must Carry)
อย่างไรก็ตามสำหรับลูกค้าที่ชมผ่านแอพฯ AIS PLAY ที่มีจำนวน 5 ล้านคนนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถรับชมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ได้ โดยระหว่างนี้ เอไอเอสยังคงดำเนินการตามกฏหมายต่อไป เพื่อยืนยันว่า SBN ในฐานะผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง หรือโทรทัศน์ มีหน้าที่ตามประกาศ Must Carry ในการนำสัญญาณโทรทัศน์จากช่อง Free TV ทุกช่องมาถ่ายทอดผ่านแอพฯ AIS PLAY
ด้านทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป แจ้งว่าตามที่ได้ยื่นคำร้องต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง กรณีที่บริษัทในเครือเอไอเอส ได้นำสิทธิการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 เผยแพร่ผ่านแอพฯ AIS Play บนมือถือโดยไม่เคยได้รับอนุญาตจากทางทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป และ FIFA ล่วงหน้า และศาลฯได้มีคำสั่งให้ AIS Play ยุติการเผยแพร่การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. เวลา 17.00 น. เป็นต้นไปนั้น
เมื่อวานนี้ ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป ได้เข้าชี้แจงกับศาลทรัพย์สินทางปัญญา และการค้าระหว่างประเทศกลาง อีกครั้ง เพื่อยืนยันเจตนารมณ์ที่จะต้องดูแลการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกในประเทศไทยไม่ให้มีการละเมิดลิขสิทธิ์และต้องเป็นไปตามกติกาข้อกำหนดของ FIFA จึงได้ร้องขอศาลฯเพื่อพิจารณาให้มีคำสั่งระงับการถ่ายทอดการออกอากาศผ่าน AIS Play บนมือถือและอุปกรณ์เคลื่อนที่ เนื่องจากแอพฯ AIS Play บนมือถือและอุปกรณ์เคลื่อนที่ไม่เคยได้รับอนุญาตจากทางทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป และ FIFA ล่วงหน้า จึงไม่มีสิทธิที่จะเผยแพร่ และอาจเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องทางลิขสิทธิ์จากฟีฟ่าที่จะส่งผลต่อประเทศไทยในเรื่องลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกในครั้งนี้และในอนาคตต่อไปได้
ทั้งนี้ ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป ขอยืนยันว่า คำร้องของบริษัทและคำสั่งของศาลเป็นกรณีการให้ระงับการเผยแพร่ผ่าน AIS Play ที่เป็นแอพฯบนมือถือและอุปกรณ์เคลื่อนที่เท่านั้น