หุ้น SPALI ราคาไหลลง 4.71% มาอยู่ที่ 24.30 บาท ลดลง 1.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 97.95 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.24 น. โดยเปิดตลาดที่ 24.80 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 24.80 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 23.90 บาท
บมจ.ศุภาลัย (SPALI) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (10 ก.ค.) มีมติให้บริษัท ศุภาลัย พรอพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SPM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นอยู่ 99.99% ทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมด 100% หรือจำนวน 992.01 ล้านหุ้น ใน บมจ.มั่นคงเคหะการ (MK) โดยสมัครใจ (Voluntary Tender Offer) ในราคาหุ้นละ 4.10 บาท รวมเป็นมูลค่าประมาณ 4.07 พันล้านบาท ภายใต้เงื่อนไขว่า SPM จะทำการยกเลิกคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมด หากเมื่อสิ้นสุดระยะเวลารับซื้อแล้วมีผู้เสนอขายหุ้นจำนวนน้อยกว่า 25% โดยราคาเทนเดอร์ฯหุ้น MK สูงว่าราคาปิดตลาดเมื่อวานนี้ซึ่งอยู่ที่ระดับ 3.30 บาท
ด้านบล.เอเชีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินว่า การซื้อกิจการน่าจะมีความสมเหตุสมผล เนื่องจากผู้บริหารทั้ง 2 เป็นพี่น้องกัน และมีประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มานานหลาย 10 ปี ปัจจุบันธุรกิจของ 2 ตระกูลได้เปลี่ยนผ่านมาอยู่ในมือผู้บริหารรุ่นหลัง แม้ผลของการควบรวมกิจการกัน จะไม่ทำให้ SPALI แตกต่างจากเดิมนัก เพราะ MK เน้นทำตลาดบ้านเดี่ยว ขณะที่ SPALI ทำหลากหลาย ทั้งบ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียม เป็นต้น แต่น่าจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งในการแข่งขันทำผู้ประกอบการในธุรกิจ
ภายใต้สมมติฐานว่าการซื้อกิจการได้เกิน 25% ซึ่งจะมีผลทำให้มีการจัดทำงบการเงินรวมทั้ง 2 บริษัท จากที่ทีมผู้บริหาร SPALI น่าจะเข้าเป็นผู้บริการเป็นหลัก ปัจจุบัน MK มีทุนเรียกชำระแล้ว 992 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 1 บาท หากสามารถซื้อหุ้น MK ทั้งหมดต้องใช้เงินกว่า 4 พันล้านบาท แต่คาดว่าจะไม่สามารถซื้อได้ทั้งหมด เพราะหุ้น MK ได้ถูกขายให้กับผู้ถือหุ้นรายใหญ่กลุ่มหนึ่งไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยหากพิจารณาเงินสดของ SPALI สิ้นปี 2561 คาดไว้ที่ 600 ล้านบาท บวกกับ กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (CFO) อีก 4.1 พันล้านบาท และ External debt/Equity ต่ำกว่า 1 เท่า จึงมีความพร้อม
ความเหมือนของ SPALI และ MK คือ เป็นหุ้นที่มี P/E ต่ำกว่า 10 เท่า และเงินปันผลสูงราว 5% จึงแนะนำ"ซื้อ"หุ้น MK เพราะราคารับซื้อ 4.1 บาท สูงกว่าราคาตลาดที่ 3.3 บาท หรือ ราว 24% ส่วน SPALI(FV@B28) ราคาตลาดมี upside 10% น่าสนใจน้อยกว่า MK