นายวิทัย รัตนากร เลขาธิการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า กบข.มีโอกาสเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นช่วงครึ่งหลังปีนี้ โดยเฉพาะในช่วงเวลาและภาวะตลาดที่เหมาะสม หลังจากที่ได้ลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปี 61 ลงมาเหลือ 7% จากเดิม 9% ขณะที่มีการลงทุนในตลาดหุ้นประเทศเกิดใหม่ 4% และตลาดหุ้นประเทศพัฒนาแล้ว 8% และถือครองพันธบัตรไม่ต่ำกว่า 60% โดยปัจจุบัน กบข.มีการบริหารสินทรัพย์รวม 8.6 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ความผันผวนจากตลาดการเงินโลก ส่งผลกระทบต่อตลาดเกิดใหม่ (emerging market) รวมถึงประเทศไทย ปัจจัยสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ยังกดดันและอาจจะขยายวงกว้างขึ้นในช่วง 2 เดือนข้างหน้า ทำให้ตลาดหุ้นไทยยังผันผวนในช่วงสั้น แต่แนวโน้มเศรษฐกิจไทยทั้งในระยะสั้น-กลาง-ยาวยังอยู่ในระดับที่ดี จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลทยอยออกมา ประกอบกับราคาหุ้นปรับตัวลงมาต่ำมาในระดับที่นับว่าเหมาะแก่การลงทุนสำหรับนักลงทุนระยะยาว
สำหรับการลงทุนในตราสารหนี้นั้น กบข.ได้ลดระยะเวลาเฉลี่ยในการถือครองตราสารหนี้ในพอร์ตเป็น 1.8 ปี จากเดิม 3 ปี เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น
อนึ่ง วันนี้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และกบข.ได้ร่วมแถลงแนวทางการส่งเสริมการลงทุนในหุ้นยั่งยืนที่ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล พร้อมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ส่งเสริมความรู้เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินแก่สมาชิก กบข. กว่าล้านคนทั่วประเทศ
นายวิทัย กล่าวว่า กบข. มีการบริหารเงินลงทุนอย่างรับผิดชอบโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) ซึ่งเชื่อมั่นว่าเป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว ลดความเสี่ยง และส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่ธุรกิจและสังคม ทั้งนี้ กบข. ตั้งเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำด้านการลงทุนอย่างรับผิดชอบโดยยึดหลัก ESG เริ่มจากเดือนก.ย.61 จะจัดตั้งกองทุน ESG-Focused Portfolio มูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท เพื่อลงทุนในตราสารทุนในประเทศ โดยใช้ดัชนี SET THSI เป็นตัวเทียบวัด และจะขยายกองทุนนี้ไปต่างประเทศในปีหน้า
ส่วนเรื่องความร่วมมือให้ความรู้ทางการเงินเพื่อการเกษียณอย่างมีความสุขสำหรับข้าราชการที่เป็นสมาชิก กบข. นั้น คาดหวังว่าจะนำองค์ความรู้และสื่อการเรียนรู้ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดทำมาประยุกต์ใช้เพื่อให้ความรู้สมาชิก กบข. ด้านการออมเพื่อวัยเกษียณ โดยมีเป้าหมายให้สมาชิกมีเงินออมยามเกษียณที่เพียงพอ
ด้านนายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า ตลท.ได้ส่งเสริมให้ผู้ลงทุนตระหนักถึงความสำคัญของการลงทุนแบบยั่งยืน และเพื่อช่วยให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลการลงทุนในหุ้นยั่งยืน จึงได้พัฒนาดัชนี SET THSI ซึ่งประกอบด้วย 45 หลักทรัพย์ ที่มีความโดดเด่นในการดำเนินงานโดยคำนึงถึง ESG ขึ้นมา โดยดัชนีดังกล่าวสามารถใช้ในการอ้างอิง (benchmark) สำหรับการลงทุนในพอร์ตที่เน้นลงทุนในหุ้นยั่งยืน รวมถึงนำไปอ้างอิงเพื่อต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินในอนาคต
"ความร่วมมือการส่งเสริมการลงทุนในหุ้นยั่งยืน ระหว่างตลาดหลักทรัพย์ฯ และกบข. ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของตลาดทุนไทยที่ผู้ลงทุนสถาบันรายใหญ่ของประเทศได้ให้ความสำคัญและสนับสนุนการลงทุนในหุ้นยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม โดยนำดัชนีที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ พัฒนาขึ้นมาใช้เปรียบเทียบผลตอบแทนการลงทุน นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังร่วมมือกับ กบข. ในการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านการวางแผนการเงินการลงทุนแก่สมาชิก กบข. ซึ่งมีจำนวนกว่า 1 ล้านคนทั่วประเทศ ให้สามารถบริหารเงินออมผ่านกองทุน กบข. และทางเลือกการลงทุนอื่นๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายเกษียณที่ต้องการได้" นายภากร กล่าว
ทั้งนี้ ดัชนี SET THSI ช่วยให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลการลงทุนในหุ้นยั่งยืนและสนับสนุนให้ผู้ลงทุนสถาบันนำดัชนีไปอ้างอิงในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินและเป็นดัชนีอ้างอิงเปรียบเทียบผลตอบแทนในพอร์ตการลงทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นยั่งยืน โดยดัชนี SET THSI คำนวณมาจากหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่มีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล และคัดเลือกมาจากหุ้นที่อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืนหรือ Thailand Sustainability Investment List ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดทำขึ้นเป็นประจำทุกปี